จีนยอมรับมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
จีนจะยอมรับผลจากการกระทำครั้งใหญ่ที่สุดจากมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหประชาชาติเพราะจีนมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดที่สุดกับเกาหลีเหนือ แต่จะร่วมมืออย่างเต็มที่ในการหาทางออก อ้างอิงจากถ้อยแถลงของนายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ให้มีมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ซึ่งจะส่งผลกระทบถึง 1 ใน 3 ของรายได้จากการส่งออกมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปีของเกาหลีเหนือ
ในการประชุมความมั่นคงในภูมิภาคที่ฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 7 ส.ค. รัฐมนตรีต่างประทศของจีนได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าจีนและประชาคมนานาชาติคัดค้านการพัฒนาและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
“จากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มีมาดั้งเดิมกับเกาหลีเหนือ ทำให้จีนต้องรับผลของการกระทำจากการปฏิบัติตามวิธีการแก้ปัญหาของเรื่องนี้”
“แต่เพื่อเป็นการปกป้องสนธิสัญญาที่ไม่ให้มีการแพร่กระจายของนิวเคลียร์และเพื่อความสงบสุขในภูมิภาคและความมั่นคง จีนจะปฏิบัติตามอย่างสุดความสามารถและเคร่งครัด” อ้างอิงจากแถลงการณ์ของรัฐมนตรีหวัง
จีนย้ำว่า จะยึดมั่นในมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่มีต่อเกาหลีเหนือให้เข้มงวดขึ้น ถึงแม้จะกล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าตามปกติของเกาหลีเหนือ
โดยมาตรการคว่ำบาตรล่าสุดจากสหประชาชาติ ห้ามสินค้าส่งออกจากเกาหลีเหนือคือ ถ่านหิน เหล็ก แร่เหล็ก ตะกั่ว แร่ตะกั่วและอาหารทะเล นอกจากนี้ยังห้ามไม่ให้หลายประเทศเพิ่มจำนวนการจ้างแรงงานชาวเกาหลีเหนือที่ปัจจุบันทำงานในต่างประเทศ ห้ามการลงทุนร่วมกับเกาหลีเหนือและการลงทุนใหม่ในการร่วมทุนที่มีอยู่เดิม
รัฐมนตรีหวังกล่าวว่า จีนชื่นชมความเห็นของนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯที่ว่า สหรัฐฯไม่ได้ต้องการโค่นล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ และยังต้องการพูดคุยกับทางเปียงยางในบางกรณี
ทั้งนี้ รัฐมนตรีทิลเลอร์สันกล่าวว่า สหรัฐฯไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง หรือโค่นล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ เพียงต้องการที่จะเห็นความกลมเกลียวกันมากขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี และไม่มีข้ออ้างที่จะส่งกองทัพสหรัฐฯเข้ามาในเกาหลีเหนือ
รัฐมนตรีหวัง กล่าวว่า รัฐมนตรีทิลเลอร์สันส่งสัญญาณในเชิงบวก และหวังว่าเกาหลีเหนือจะสะท้อนสัญญาณเชิงบวกกลับมาเช่นกัน
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค. รัฐมนตรีทิลเลอร์สันเปิดกว้างสำหรับการพูดคุยเจรจากับเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่า ทางสหรัฐฯมีเจตนาที่จะเจรจากับทางเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือตัดสินใจหยุดการพัฒนาและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์.