อิตาลี/อังกฤษ ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเฉพาะวัย
ลอนดอน : เมื่อวันที่ 7 เม.ย. อิตาลีแนะนำให้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบ.แอสตราเซเนกากับผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และสหราชอาณาจักรแนะนำให้ผู้อายุต่ำกว่า 30 ปีมีทางเลือกที่จะฉีดวัคซีนตัวนี้หรือตัวอื่นได้ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นได้ยาก
กว่า 12 ประเทศเคยระงับการใช้วัคซีนตัวนี้แล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แต่ส่วนใหญ่กลับมาใช้วัคซีนนี้อีกครั้ง
โดยทางการอิตาลีแนะนำให้ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกากับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ระบุว่า ผู้ที่อายุน้อยกว่า 60 ปีที่รับวัคซีนโดสแรกของแอสตราเซเนกาไปแล้ว สามารถรับโดสที่สองได้
วัคซีนของแอสตราเซเนกามีราคาไม่กี่ดอลลลาร์สหรัฐฯต่อโดส จนถึงตอนนี้ จัดว่าเป็นวัคซีนราคาถูกที่สุดและมีปริมาณผลิตมากที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดเก็บในอุณหภูมิเย็นจัด ทำให้มีแนวโน้มจะเป็นวัคซีนตัวหลักในโครงการฉีดวัคซีนของประเทศกำลังพัฒนา
สัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีแนะนำให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีที่ได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกาโดสแรก ฉีดโดสที่สองจากวัคซีนตัวอื่น โดยระบุว่า ตัวอย่างภาวะลิ่มเลือดพบในผู้ที่ได้รับวัคซีนตัวนี้มากกว่าปกติถึง 20 เท่า แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แม้จะพบความเชื่อมโยง แต่ความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดดูจะเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสามารถทำให้เกิดลิ่มเลือดได้เช่นเดียวกันพร้อมกับอาการอื่นๆของโรค
“ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโควิด มีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงอื่นๆ” เอเมอร์ คุก ประธานบริหาร EMA ระบุ
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของแอสตราเซเนกาปรับลดลง 1.2% ต่ำที่สุดในรอบสองสัปดาห์
มีความข้องใจกับวัคซีนตัวนี้ และถูกตั้งคำถามตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เมื่อบริษัทแอสตราเซเนกาและม.ออกซ์ฟอร์ดตีพิมพ์ข้อมูลการทดลองวัคซีนด้วยผลการอ่านค่าประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน 2 ชิ้น เนื่องจากมีความผิดพลาดของโดสวัคซีน
จูน เรน ผอ.องค์การยาสหราชอาณาจักรระบุว่า วัคซีนตัวนี้มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง แต่ต้องมีความสมดุลลงตัวมากกว่านี้สำหรับกลุ่มคนอายุน้อย ซึ่งมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 น้อยกว่ากลุ่มอื่นโดยเฉลี่ย
เว่ยเฉินลิม ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการร่วมวัคซีนและภูมิคุ้มกันของสหราชอาณาจักรระบุว่า เป็นเรื่องดีกว่าสำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 30 ปี และไม่มีโรคประจำตัว ที่จะเลือกฉีดวัคซีนตัวอื่น
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า ไม่ชัดเจนว่าทำไมวัคซีนของแอสตราเซเนกาถึงจะก่อให้เกิดปัญหาอยู่ตัวเดียว ในขณะที่วัคซีนตัวอื่นไม่มี แม้วัคซีนจะมีผลในการทำลายไวรัสในส่วนเดียวกัน