เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 2 โตเร็ว
เศรษฐกิจสหรัฐฯ เร่งเครื่องขึ้นมาในไตรมาส 2 ของปี โดยมีตัวเลขการเติบโตต่อปีสูงถึง 2.6%
โดยการฟื้นตัวได้รับแรงหนุนสำคัญจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสที่มีการขยายตัวสูงถึง 2.8% และธุรกิจเพิ่มการใช้จ่ายในด้านเครื่องมือและอุปกรณ์
อัตราการเติบโตไนไตรมาสแรกถูกปรับลดเหลือ 1.2% เมื่อเทียบกับที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้คือ 1.4%
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สำหรับปีนี้จาก 2.3% ลงมาอยู่ที่ 2.1%
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งการลดภาษีรายได้นิติบุคคลและบุคคล แต่ยังต้องเจอกับทางตันในกรุงวอชิงตัน เขาตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทะเยอทะยานไว้ที่ 3% สำหรับปี 2560 นี้
ตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตถึง 1.9% จากไตรมาสแรก
Stuart Hoffman ที่ปรึกษาเศรษฐกิจอาวุโสประจำ PNC กล่าวว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามการเติบโตของค่าจ้างยังคงซบเซาจนทำให้มีความกังวลว่าการใช้จ่ายอาจจะชะลอตัวลงในไตรมาสหน้า
รายงานของกระทรวงแรงงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 ก.ค. กล่าวถึงดัชนีต้นทุนการจ้างงานซึ่งเป็นมาตรวัดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.- มิ.ย.หลังจากเติบโต 0.8% ในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ ตัวเลขการเติบโตล่าสุดชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในปี 2560 เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมของธนาคารครั้งล่าสุด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่าข้อมูลชี้ให้เห็นว่า เฟดไม่มีความกดดันที่จะต้องตัดสินใจดำเนินนโยบายอย่างรวดเร็ว
“ ถึงแม้การเติบโตจะแข็งแกร่ง การขาดแรงกดดันด้านค่าแรงเท่ากับเป็นการซื้อเวลาให้เฟดมีเวลามากขึ้น และสามารถทำงานด้วยวงรอบที่ค่อยๆ เข้มงวดขึ้น ” Alan Ruskin จาก Deutsche Bank ในนิวยอร์กกล่าว