อากิตะสั่งอพยพหลังฝนตกหนัก
เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีการสั่งอพยพและแนะนำให้ผู้คนหลายแสนรายที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ให้ออกจากบ้านของตนเองเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วมและตัดเส้นทางรถไฟบางเส้น
ก่อนหน้าเหตุพายุฝนครั้งนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีเหตุใกล้เคียงกันทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย
เจ้าหน้าที่ในภูมิภาคอากิตะให้สัมภาษณ์กับทางรอยเตอร์ว่า มีผู้คนราว 25,000 รายในภูมิภาคที่ถูกสั่งให้อพยพ และมีการแจ้งให้อีก 65,000 รายอพยพหรือเตรียมตัวออกจากพื้นที่ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ระบุว่า แม่น้ำหลายสาย และบ้านหลายร้อยหลังถูกน้ำท่วมจนมิด โดยล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บใด ๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนและติดตามสถานการณ์ต่อไป
พายุรุนแรงทำให้เกิดเหตุน้ำท่วมไปตามเส้นทางของแม่น้ำโอโมโนะ ในขณะที่แม่น้ำอีกหลายสายเสี่ยงต่อการพังทลาย
ทางการรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก หรือ JR-EAST โพสต์ข้อมูลบนเว็บไซต์ว่า ขณะนี้ รถไฟหัวกระสุนหลายคันที่วิ่งจาก หรือ ไปยังภูมิภาคอากิตะ จำเป็นต้องหยุดให้บริการเนื่องจากฝนที่ตกหนัก
เจ้าหน้าที่ของภูมิภาคอากิตะระบุว่า “ ยังคงมีปริมาณน้ำฝนที่ท่วมอยู่บนผืนดินจำนวนมาก ดังนั้นแม้ว่าฝนจะหยุดตกแล้ว แต่เราก็จะยังคงต้องการให้ผู้คนระมัดระวังตัวต่อไป ”
เมืองหลายแห่งอย่างยูริฮอนโจ ไดเซ็น และเซ็นโบคุ รวมถึงเมืองมิซาโตะ สั่งให้ผู้อยู่อาศัยกว่า 25,000 รายอพยพหลังมีรายงานว่าบ้านหลายหลังถูกน้ำท่วมหนักและหลังมีดินถล่มพื้นที่หลายแห่งในอากิตะ
หลังจากมีการประชุมรวมตัวระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐของภูมิภาคอากิตะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีการยืนยันแล้วว่า บ้าน 95 หลังถูกน้ำท่วม
ช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาได้เตือนถึงปัญหาน้ำท่วมที่จะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ประชากรส่วนหนึ่งของภูมิภาคอากิตะ อพยพและลี้ภัยไปยังภูมิภาคโทโฮกุ
อ้างอิงจากข้อมูลของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า พื้นที่หนึ่งในเมืองที่ภูมิภาคอากิตะ มีบันทึกปริมาณน้ำฝนสูงถึง 340 มม. ภายในระยะเวลา 24 ชม. ซึ่งบันทึกไว้เมื่อเวลา 7.00 น. ของวันที่ 23 ก.ค.