ศก.ไต้หวันโตแซงจีนครั้งแรกในรอบ 30 ปี
ในปีที่แล้ว ไต้หวันกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขยายตัวเติบโตสูงสุด และเติบโตแซงจีนได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี
ตัวเลขเศรษฐกิจนี้เกิดจากดีมานด์แข็งแกร่งทั่วโลกที่ทำให้ไต้หวันส่งออกสินค้าเทคโนโลยีได้อย่างต่อเนื่องแม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม
โดยเศรษฐกิจไต้หวันเติบโตถึง 2.98% ในปี 2563 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการประเมินของสำนักงานสถิติแห่งไต้หวันเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา สูงกว่าการคาดการณ์ของธนาคารกลาง และสูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามในปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2.9% ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์บางคนทำนายว่าเวียดนามจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตสูงที่สุดในปี 2563
ตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจของไต้หวันในปีที่แล้วยังสูงกว่าของจีนซึ่งอยู่ที่ 2.3% ในปีที่แล้ว โดยล่าสุดที่ไต้หวันเคยมีตัวเลขเศรษฐกิจสูงกว่าจีนคือย้อนไปในปี 2533 ที่มีจีดีพี 5.5% สูงกว่าจีนซึ่งอยู่ที่ 3.9% อ้างอิงจากข้อมูลทางการของทั้งสองฝ่าย
“ ปี 2563 เป็นปีเติบโตเป็นประวัติการณ์ของไต้หวัน และเราคาดการณ์ว่า ไต้หวันจะเปล่งประกายได้อย่างต่อเนื่อง” Angela Hsieh นักเศรษฐศาสตร์ที่ธนาคารบาร์คลีย์สระบุในรายงานเมื่อวันที่ 29 ม.ค. หลังจากไต้หวันเผยตัวเลขเศรษฐกิจ
เธอระบุว่า ไต้หวันมีการส่งออกที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว โดยเฉพาะการส่งอกเซมิคอนดักเตอร์ ช่วยหนุนให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤตโควิด-19 นักเศรษฐศาสตร์ปรับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของไต้หวันในปี 2564 นี้ขึ้นอีก 1.2% เป็น 5.2% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของทางการที่ 3.83%
ไต้หวันยังประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประเทศไม่ต้องมีมาตรการล็อกดาวน์เหมือนประเทศอื่นๆ จนถึงวันที่ 31 ม.ค. ศูนย์ควบคุมโรคไต้หวันรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 911 ราย และมีผู้เสียชีวิต 8 ราย
ไต้หวันเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก โดยเซมิคอนดักเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งรถยนต์ คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน
ความต้องการใช้งานชิปพุ่งขึ้นทั่วโลกเมื่อโรคระบาดบีบให้ผู้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น มาตรการล็อกดาวน์ทำให้ยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น เช่น คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป
ไม่นานมานี้ การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ รวมทั้งบริษัทฟอร์ดของสหรัฐฯ และนิสสันของญี่ปุ่นต้องปรับลดกำลังการผลิตในโรงงานบาลแห่งลง
ในระยะสั้น จีนอาจต้องพึ่งพาไต้หวันมากขึ้นในด้านเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากถูกตัดสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ในสหรัฐฯ แม้จีนตั้งเป้าพึ่งพาตนเองมากขึ้นในระยะยาวเนื่องจากความตึงเครียดกับสหรัฐฯยังขยายตัว แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า ความสามารถของจีนยังห่างไกล
หุ้นของ TSMC ในไต้หวันพุ่งทะยานขึ้นถึง 60% ในปีที่แล้วที่โควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก และยังคงปรับขึ้นอีกในปีนี้ โดยในเดือนม.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 11.5% จากปีที่แล้ว