ทรัมป์เสนอช่วยทารกป่วยโรคหายาก
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เสนอให้สหรัฐฯเข้าช่วยเหลือเด็กทารกสัญชาติอังกฤษที่มีโรคทางพันธุกรรมที่หาได้ยาก ซึ่งถูกศาลตัดสินว่าควรถอดเครื่องช่วยหายใจออกหลังจากที่เด็กน้อยต้องทนทรมานมาเป็นระยะเวลานาน
ทรัมป์ทวิตว่า “ หากเราสามารถช่วยเด็กน้อย #CharlieGard ได้อย่างที่เพื่อนของเราในสหราชอาณาจักรและพระสันตปาปาพยายามอยู่ เราก็ยินดีจะทำอย่างเต็มใจ ”
ผู้ปกครองของชาร์ลี การ์ด เด็กทารกวัย 10 เดือนซึ่งมีโรคและสมองที่เสียหาย พยายามที่จะพาชาร์ลีมายังสหรัฐฯ เพื่อการทดลองรักษาโรคไมโทคอนเดรีย หรือ โรคจากแหล่งสร้างพลังงานเซลล์ ที่หาได้ยากมาก แต่พวกเขากลับแพ้คดีในศาลอังกฤษและศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป
เฮเลน แฟร์ ผู้อำนวยการด้านกิจการสื่อของทำเนียบขาวระบุว่า “ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เสนอให้ช่วยครอบครัวนี้จากสถานการณ์ที่แสนปวดใจ ”
“ แม้ว่าตัวประธานาธิบดีเองจะไม่ได้พูดคุยกับทางครอบครัวโดยตรง เพราะเขาไม่ต้องการจะกดดันพวกเขา โดยเขาได้ส่งหนึ่งในคณะทำงานของเขาให้โทรศัพท์พูดคุยกับทางรัฐบาลอังกฤษและประสานการช่วยเหลือให้กับครอบครัวดังกล่าว ”
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิสเองก็ให้ความสนใจกับสถานการณ์ของเด็กทารกคนนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.สมเด็จพระสันตะปาปาได้กล่าวให้ความสนับสนุนครอบครัวการ์ด ทั้งคริส การ์ด และคอนนี่ เยตส์ โดยหวังว่ากลุ่มแพทย์จะยอมให้พ่อแม่ของเด็กได้ “ ดูแลลูกของพวกเขาจนถึงนาทีสุดท้าย ”
มีการสร้างเว็บเพจ Charliesfight.org เพื่อระดมเงินบริจาคในการรักษาเด็กทารกรายนี้ในสหรัฐฯ มีข้อความระบุว่า “ชายที่มีพลังที่มากที่สุดในโลกทั้งสองรายต้องการให้โอกาสกับเด็กน้อย ชาร์ลี การ์ด ” ในขณะที่ผู้ใช้ @Fight4Charlie ระบุว่า “ ขอบคุณ @realDonaldTrump สำหรับการสนับสนุน – @teresamay โปรดทำสิ่งที่ถูกต้องและ #savecharliegard “
คดีนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวอังกฤษทั้งประเทศ ทำให้เงินบริจาคสำหรับการทดลองการรักษาในกองทุน GoFundMe พุ่งสูงมากกว่า 1.3 ล้านปอนด์
มีผู้ประท้วงหลายร้อยรายจัดการชุมนุมอยู่ที่ด้านหน้าของพระราชวังบักกิงแฮม ในลอนดอนเมื่อวันที่ 2 ก.ค.และตะโกนว่า “ช่วยชาร์ลี การ์ด” โดยมีป้ายประท้วงที่เขียนว่า “ฆาตกรรม”
ศาลทั้งสองแห่งได้ตัดสินว่า การที่จะยื้อชีวิตของเด็กน้อยต่อไปมีแต่จะทำให้เด็กเองต้องทรมาน รวมถึงไม่มีความหวังว่าชาร์ลีจะสามารถได้รับการรักษาให้หายจากโรคที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ โดยเฉพาะอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจได้เลย.