สเปนเร่งเคลียร์หิมะตกหนักสุดในรอบ 50 ปี

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. รัฐบาลสเปนส่งรถบรรทุกวัคซีนต้านโควิด-19และอาหารไปหลายพื้นที่ซึ่งถูกตัดขาดจากพายุหิมะฟิโลมีนา ซึ่งทำให้หิมะตกหนักที่สุดในรอบกว่า 50 ปีในพื้นที่ตอนกลางของสเปน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย
ในพื้นที่กรุงมาดริด เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยประชาชน 1,500 คนที่ติดอยู่ในรถยนต์ ขณะที่ทางการขอความร่วมมือให้ชาวเมืองอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ และการแพร่ระบาดของโควิด-19
หน่วยงานพยากรณ์อากาศเตือนถึงสภาวะอันตรายในช่วงไม่กี่วันนี้ โดยคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะลดลงมาอยู่ที่ -10 องศาเซลเซียสในสัปดาห์หน้า และอาจทำให้หิมะกลายเป็นน้ำแข็งและต้นไม้หักโค่น
ขณะที่ตำรวจเฝ้าระวังอุบัติเหตุที่เกิดจากหิมะตกสะสมบนหลังคา แต่ชาวเมืองพากันออกไปชมวิวเมืองที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะ
มีพนักงานและนักช้อปสินค้าประมาณ 100 คนต้องติดอยู่ในห้างสรรพสินค้ามาจาฮอนดา ทางเหนือของกรุงมาดริดนานถึงสองคืนเนื่องจากหิมะตกหนัก
“มีคนนอนหลับบนกระดาษลังบนพื้น” อิวาน อัลคาลา พนักงานร้านอาหารกล่าวให้สัมภาษณ์
ทั้งนี้ สนามบินนานาชาติมาดริดระงับเที่ยวบินไปจนถึงคืนวันที่ 17 ม.ค.
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. โจเซ หลุยส์ อบาลอส รมว.คมนาคมระบุว่า ถนนความยาวประมาณ 20,000 กม.ทั่วพื้นที่ตอนกลางของสเปนได้รับผลกระทบจากพายุหิมะ และรัฐบาลจะส่งรถบรรุทุกขนส่งวัคซีน และอาหารไปให้ผู้ประสบภัย
มีรายงานอุบัติเหตุจนเสียชีวิตจากกรณีที่ชายและหญิงในรถยนต์คันหนึ่งจมลงไปในแม่น้ำใกล้มาลากาทางใต้ของสเปน ขณะที่มีคนไร้บ้าน 2 คนหนาวจนเสียชีวิตในกรุงมาดริดและกาตาลายุด ทางตะวันออกของประเทศ
สำนักพยากรณ์อากาศรายงานว่า มีหิมะตกสะสมจนหนาถึง 20 – 30 ซม.ในกรุงมาดริดเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ซึ่งนับเป็นหิมะที่ตกหนักที่สุดในสเปนตั้งแต่ปี 2514 เป็นต้นมา