ผู้นำญี่ปุ่นเร่งฟื้นความนิยม
ความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นตกต่ำลงเนื่องจากประชาชนมีความแคลงใจถึงข่าวฉาวการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้กับเพื่อนของเขา ผู้นำญี่ปุ่นจึงให้คำมั่นเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ว่าจะพยายามเอาชนะใจประชาชนให้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรีอาเบะกล่าวว่า จะเริ่มคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี และคนสำคัญในพรรคโพสต์ข้อความให้เขาปรับเปลี่ยนคนให้เหมาะกับงาน
แต่ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อนิกเคอิ เขาไม่ได้ยืนยันว่าจะปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีในเดือนส.ค.หรือก.ย.
และจะยังคงตำแหน่งเดิมไว้บางคนคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทาโร อาโสะ และเลขานุการคณะรัฐมนตรีโยชิเดะ ซูกะ
ทั้งนี้ จากโพลล์สำรวจความนิยมจากประชาชนชี้ให้เห็นว่า ความนิยมในตัวนายกฯ อาเบะดิ่งฮวบ โดยหนังสือพิมพ์ไมนิจิรายงานว่า ความนิยมในตัวเขาตกลงมาถึง 10 จุด เหลือเพียง 36% ซึ่งเป็นคะแนนความนิยมที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศญี่ปุ่นในเดือนธ.ค.ปี 2555
โดยผู้ที่ไม่สนับสนุนนายกฯ อาเบะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 44% ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คะแนนสูงแซงความนิยมในตัวเขานับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2558 เป็นต้นมา หลังจากสภาผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงที่ทำให้เกิดการโต้แย้งเรื่องการขยายขอบเขตกำลังของกองทัพในต่างประเทศ อ้างอิงจากรายงานของหนังสือพิมพ์ไมนิจิ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดเผยเอกสารที่ฝ่ายค้านมองว่า นายกฯ อาเบะต้องการผลักดันโรงเรียนสัตวแพทย์แห่งใหม่ที่ดำเนินการโดยเพื่อนของเขา ผ่านการพิจารณาอนุมัติให้อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยทางกระทรวงรายงานก่อนหน้านี้ว่า ไม่สามารถหาเอกสารได้ แต่เปิดประเด็นการสืบสวนภายใต้แรงกดดันจากสาธารณชน
โดยนายกฯ อาเบะปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ใช้อำนาจในทางที่มิชอบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเพื่อน เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.เขากล่าวซ้ำว่า กระบวนการโจมตีเขาบิดเบือน และตระหนักว่ารัฐบาลจำเป็นต้องเรียกความไว้วางใจจากประชาชนกลับคืนมา
“ เราต้องอธิบายแต่ละนโยบายที่ละประเด็นอย่างสงบ เพื่อเราจะได้ชนะใจพลเมืองญี่ปุ่น ผมมีความมุ่งมั่นที่จะทำเช่นนั้น ” ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวซึ่งเป็นการปิดสมัยประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.
ทั้งนี้ นักการเมืองฝ่ายค้านและสื่อระบุว่า เพื่อนของนายกฯอาเบะชื่อ โคทาโร คาเขะ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของสถาบันการศึกษาคาเขะ มีแผนจะเปิดแผนกสัตวแพทย์ แต่รัฐบาลไม่มีการอนุมัติให้ตั้งโรงเรียนสัตวแพทย์มานานหลายทศวรรษ เนื่องจากมีความกังวลว่าจะมีจำนวนสัตวแพทย์มากเกินความต้องการ
“ สาธารณชนไม่ชอบความเย่อหยิ่งยโส แต่เขาก็ไม่ชอบตัวเลือกคนอื่นๆ มากกว่าที่ไม่ชอบอาเบะด้วย ”
Gerry Curtis ศาสตราจารย์เกียรติคุณจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียให้ความเห็น.