ญี่ปุ่นห้ามต่างชาติเข้าประเทศถึงสิ้นเดือนม.ค.ปีหน้า
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. กระทรวงต่างประเทศออกแถลงการณ์ระบุว่า ญี่ปุ่นจะห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่ 28 ธ.ค. จนถึงสิ้นเดือนม.ค.ปีหน้า หลังจากพบผู้ติดเชื้อจากโควิด-19 ที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่
โดยพลเมืองญี่ปุ่นและผู้อยู่อาศัยถาวรที่เป็นต่างชาติยังสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ แต่ต้องมีการกักตัวเองนาน 14 วัน อ้างอิงจากรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ NHK
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากกรุงโตเกียวรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อสองรายใหม่เป็นรายแรกๆที่ตรวจพบเชื้อนอกสถานกักตัวที่สนามบินในญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. มีนักเดินทางจากสหราชอาณาจักรอีก 5 รายที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่สนามบินนานาชาติของญี่ปุ่น
ไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่มีต้นกำเนิดในสหราชอาณาจักร และมีการแพร่เชื้อได้เร็วขึ้นและมากขึ้น ตั้งแต่มีการค้นพบ มีกว่า 40 ประเทศที่ประกาศห้ามการเดินทางจากสหราชอาณาจักร และในหลายราย การเดินทางจากประเทศอื่นๆ มีเอกสารยืนยันว่า พบไวรัสที่กลายพันธุ์
ตั้งแต่ 28 ธ.ค. สหรัฐฯจะกำหนดให้นักเดินทางทุกคนจากสหราชอาณาจักรต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบภายใน 72 ชม. ก่อนเดินทางไปสหรัฐฯ โดยผู้โดยสารจะต้องแสดงเอกสารผลตรวจหาเชื้อด้วย
มีการประกาศมาตรการคุมเข้มหลายระดับจากหลายประเทศ ทั้งเดนมาร์ก เอควาดอร์ กรีซ โปรตุเกส สเปนและยูเครน ขณะที่ประเทศอื่นๆยังคงระงับเที่ยวบินจากสหรอาณาจักร ทั้งอาร์เจนตินา เบลเยียม บราซิล แคนาดา จีน โคลอมเบีย เยอรมนี อินเดีย อิตาลี เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย และสเปน
อีกหลายประเทศขยายเวลาการระงับการเดินทาง หรือคุมเข้มประเทศอื่นๆที่ตรวจพบไวรัสกลายพันธุ์ เช่น เดนมาร์ก
เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลีย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเทศที่มีมาตรการคุมเข้มการเดินทางจากแอฟริกาใต้ ซึ่งมีรายงานโควิด-19 กลายพันธุ์ที่แตกต่างจากในสหราชอาณาจักร จากรายงานขององค์การอนามัยโลก