เกาหลีใต้ปิดร.ร./ส่งทหารช่วยรับมือโควิด
โซล – เกาหลีใต้ปิดโรงเรียนและส่งทหารจากหน่วยรบพิเศษหลายร้อยนายไปช่วยในการสอบสวนโรค ขณะที่รัฐบาลมีมาตรการคุมเข้มมากขึ้นท่ามกลางการระบาดระลอกสามของโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 43,000 ราย
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. เกาหลีใต้รายงานผู้ติดเชื้อ 718 ราย ลดลงจากที่เคยพุ่งทุบสถิติถึง 1,030 รายในวันที่ 12 ธ.ค. และ 950 รายในวันที่ 13 ธ.ค.
แต่ตัวเลขยังคงน่ากังวลเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อในวันที่ 14 ธ.ค.มีแนวโน้มลดลงเพราะมีการตรวจหาเชื้อน้อยลงในช่วงสุดสัปดาห์ หน่วยงานสาธารณสุขเคยออกโรงเตือนว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันอาจพุ่งขึ้นไปถึง 1,200 รายได้ หากอัตราการติดเชื้อไม่ชะลอตัวลดลง
ปัจจุบัน มีการระบาดในสองคลัสเตอร์หลักที่ร้านอาหารกลางกรุงโซล และโบสถ์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโซล และมีการติดเชื้อเป็นกลุ่มเล็กๆกระจายทั่วประเทศ
จากมาตรการที่เข้มงวดขึ้น โรงเรียนประถมและอนุบาลในกรุงโซล และพื่นที่โดยรอบจะเปลี่ยนไปเรียนแบบออนไลน์ตั้งแต่ 15 ธ.ค. จนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่มีคำสั่งให้โรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายเปลี่ยนไปเรียนออนไลน์ตั้งแต่ 7 ธ.ค.
ในวันที่ 14 ธ.ค. กองทัพส่งเจ้าหน้าที่ทหาร 379 นายจากหน่วยรบพิเศษไปประจำการที่ศูนย์สาธารณสุข 79 แห่งในกรุงโซลเพื่อช่วยสนับสนุนการต่อสู้กับไวรัสเป็นเวลา 2 เดือน โดยเน้นที่การสอบสวนโรค หาเส้นทางการติดเชื้อและการส่งตัวอย่างไวรัส
กระทรวงกลาโหมยังได้ส่งแพทย์ทหาร 56 นาย และพยาบาล 18 คนไปประจำที่ศูนย์ตรวจหาเชื้อชั่วคราว 150 แห่งที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.
ในบางศูนย์มีคนเข้าแถวยาวต่อคิว เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสฟรีและเป็นการตรวจแบบนิรนามเพื่อหนุนให้ประชาชนเข้ารับการตรวจมากขึ้น
มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้รัฐบาลยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมขึ้นสู่ระดับสูงสุด
ภายใต้มาตรการสูงสุดคือระดับ 3 ซึ่งสูงกว่าระดับ 2.5 ที่เป็นอยู่ จะบังคับใช้ในสถานการณ์มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง 800 – 1,000 รายต่อวัน และกำหนดให้ประชาชนอยู่รวมกันได้ไม่เกิน 10 คน
โดยโรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้าต้องถูกปิด และพนักงานในส่วนที่ไม่ใช่บริการสำคัญต้องทำงานจากที่บ้าน
ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสถานที่และบริการกว่า 2 ล้านแห่ง จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกังวลว่าหากใช้มาตรการขั้นสูงสุดจะส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจทรุด
นายกรัฐมนตรีชองซเยคยอนกล่าวเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า มาตรการระดับ 3 จะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จำเป็นต้องทบทวนอย่างระวัง โดยเขาเสริมว่า “ สำหรับตอนนี้ เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการต้านไวรัส”
ในสัปดาห์ที่แล้ว อัตราผู้ที่มีผลตรวจไวรัสเป็นบวกอยู่ที่ประมาณ 3 – 4% ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เป็นอัตราการติดเชื้อในชุมชนที่สูง
รัฐบาลกรุงโซลจะเปิดศูนย์รักษา 18 แห่งในสัปดาห์นี้เพื่อเตรียมเตียงผู้ป่วย 1,577 เตียงสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก จากปัจจุบันที่กรุงโซลมีศูนย์รักษาแบบเดียวกันนี้เพียง 9 แห่ง และมีเตียงผู้ป่วยว่างเพียง 251 เตียงจาก 1,937 เตียงจนถึงวันที่ 14 ธ.ค.
โบสถ์ขนาดใหญ่ 5 แห่งยังเสนอตัวเป็นศูนย์รักษาพยาบาลในกรุงโซลด้วย ซึ่งจะทำให้มีห้องผู้ป่วยเพิ่มอีก 890 ห้อง
ขณะเดียวกัน ประชาชนต่างเร่งซื้ออาหารและสินค้าอื่นๆเพื่อเตรียมการรับมือกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับ 3