สหรัฐฯเล็งแบนแล็ปท็อปทั่วโลก
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯ กำลังร่วมตัดสินใจ เพื่อแบนสายการบินจากทั่วโลกไม่ให้มีการนำคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปขึ้นห้องโดยสาร
นายจอห์น เคลลี่ เลขาธิการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าวว่า เป็นเพราะภัยคุกคามต่าง ๆ รวมถึงการก่อการร้าย ต่างมุ่งเป้าโจมตีเครื่องบินของสหรัฐฯ
ในขณะนี้สหรัฐฯ ยังคงมีการแบนเล็ปท็อปสำหรับเที่ยวบินที่เดินทางมาและไปยังประเทศมุสลิม 8 ประเทศ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มีการตัดสินใจไม่ให้ขยายการแบนแล็ปท็อปต่อเนื่องไปยังประเทศต่าง ๆ อย่างเช่นในยุโรป แต่ล่าสุดนายจอห์นให้ความเห็นว่า การแบนนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการตัดสินใจ
ทางสหรัฐฯ มองว่าแล็ปท็อป หรือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อาจเป็นตัวจุดระเบิดหรือก่อเหตุการร้ายแรงได้ จึงมีมาตรการป้องกันต่างๆ ออกมา
นายจอห์นให้สัมภาษณ์กับรายการข่าวของช่องฟ็อกซ์ เมื่อวันที่ 28 ว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องลุกขึ้นต่อสู้กับเหตุก่อการร้ายหลังจากเหตุการณ์ระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.
ทางนักข่าวสอบถามนายจอห์นว่า มีโอกาสที่สหรัฐฯ จะแบนแล็ปท็อปจากเที่ยวบินทั่วโลกหรือไม่ นายจอห์นตอบว่า “มี”
การแบนแล็ปท็อปของสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการระบุว่าแล็ปท็อปคือ “ อุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน ” และเจาะจงไปที่เที่ยวบินจากประเทศตุรกี โมร็อกโค จอร์แดน อียิป สหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และคูเวต
ทางด้านสหราชอาณาจักรเองก็มีการแบนแล็ปท็อปจาก 6 ประเทศมุสลิมเช่นกัน
แต่ผู้เชี่ยวชาญทางความปลอดภัยด้านการเดินทางทางอากาศกล่าวว่า การที่นำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่บรรจุไปพร้อมกับสัมภาระใต้เครื่อง อาจมีความเสี่ยงสูงกว่ามากที่แบตเตอร์รี่ลิเธียมจะเกิดเพลิงไหม้.