กมธ.ซัก ละเอียดยิบ ประกันสังคม ถือหุ้น “ศรีพันวา”
กมธ. กิจการศาลฯ สภาฯ ตั้งข้อสังเกตกองทุนประกันสังคมขาดความรัดกุม รอบคอบ ลงทุนในศรีพันวา กังวลนำเงินของประชาชนไปลงทุนอย่างไม่คุ้มค่า
(8 ต.ค.) ที่อาคารรัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานประชุมพิจารณาตรวจสอบกรณีสำนักงานประกันสังคมนำเงินกองทุนประกันสังคมไปลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา โดยมีตัวแทนจากกระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม กรมที่ดิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้ร้อง เข้าชี้แจง
นายจิรายุ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า กรณีการลงทุนของกองทุนประกันสังคมที่ไปลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ทั้งที่มีความเสี่ยงสูงและความเสี่ยงปกติ โดยผู้ร้องได้ขอให้กรรมาธิการตรวจสอบ 2 ประเด็น คือ การลงทุนของกองทุนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และกระบวนการตรวจสอบของกองทุนเป็นไปอย่างรัดกุมในการดูแลเงินของประชาชนที่ถูกหักเข้ากองทุนหรือไม่ ผลการสอบถามเบื้องต้นในที่ประชุม แบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ ราคาของที่ดิน ถ้าเป็นที่ดินที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะมีราคาสูงหรือไม่ อย่างไร
โดยรองอธิบดีกรมที่ดิน ยังตอบข้อสงสัยหลายประเด็นไม่ได้ เช่น ที่ดินบนโรงแรมศรีพันวาที่ขายแบ่งแปลงเป็นหลัง ๆ เข้าข่ายต้องขออนุญาตจัดสรรที่ดินหรือไม่ ใช้วิธีการใด ส่วนเรื่องความลาดชัน และการแบ่งแปลงโฉนด ซึ่งจากการสอบถามพบเป็นเจ้าของคนเดียวกัน มีเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมายสิ่งแวดล้อมหรือไม่ โดยกรมที่ดินขอส่งเป็นเอกสารต่อกรรมาธิการ เนื่องจากหลายประเด็นเป็นข้อมูลใหม่
อีกประเด็น คือ การซื้อหุ้นหรือลงทุนในกิจการ มีการตั้งราคาสูงเกินจริงหรือไม่ โดยจากการสอบถามพบมูลค่าโรงแรมศรีพันวาประมาณ 3,000 ล้านบาท มีการตั้งราคาประเมินเกือบ 4,000 ล้านบาท เงินลงทุนของกองทุนมีประมาณ 3,000 ล้านบาท อีก 1,000 ล้านบาท ต้องกู้มา ซึ่งกรรมาธิการจะติดตามต่อไป ด้านตัวแทน ก.ล.ต. ให้ความเห็นว่าต้องตรวจสอบในรายละเอียดตามกฎระเบียบที่มีอยู่
สำหรับเงินของกองทุน พบว่ามีประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท โดยร้อยละ 40 ของเงินถูกนำไปลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งกรรมาธิการได้สอบถามกรณีการลงทุนในศรีพันวา รวมทั้งหน่วยลงทุนอื่น ๆ มีการขาดทุนทางบัญชีหรือไม่ อย่างไร ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา ตัวแทนจากกองทุนชี้แจงว่า มีทั้งขาดทุนและกำไร แต่ประมาณการจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปี 2563-2564 คาดว่าจะติดลบ 3.5%
โดยกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่กองทุน อาจจะไม่มีความรัดกุม รอบคอบ หรือขาดประสบการณ์ที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือนำเงินไปลงทุน เพียงพอที่ประชาชนจะไว้ใจได้หรือไม่ โดยกองทุน ยืนยันว่ามีการอบรมและคัดเลือกบุคลากร ประมาณ 60 คน เข้าไปทำงานในกองทุนและดูแลเงินของกองทุนดังกล่าว
ทั้งนี้ กรรมาธิการ จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ส่งต่อไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ที่รับผิดชอบตรวจสอบโครงการศรีพันวา เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาต่อไป