‘ประวิตร’ วัดพลัง ‘สมคิด’
พลังประชารัฐกระเพื่อม ‘บิ๊กตู่’ สะเทือน
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วัดพลัง โชว์ไพ่ตาย-ตีไพ่โง่กันกระหน่ำสี่แยกประชานุกูล สะเทือนทำเนียบรัฐบาล จนเบอร์ 1 ตึกไทยคู่ฟ้า ต้องออกมาสยบแรงกระเพื่อม-คลื่นใต้น้ำ
“วันนี้ยังไม่ใช่เวลาของการเมือง เรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผมเป็นคนตัดสินใจ ขอให้ช่วยกันแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กันก่อน”
“ก๊กบิ๊กป้อม” ถืออาญาสิทธิ์ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี-ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ผ่าน “เสธ.น้องรัก” พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชา ส.ว.สายทหารเสือราชินี – น้องรักพี่ใหญ่
กระซิบ “ข้างหู” หัวหน้าพรรค “อุตตม สาวนายน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เขียน “ใบลาออก” จากหัวหน้าพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหาร (กก.บห.) ชุดใหม่
นัยยะเมื่อ “หัวหน้าพรรค” ลาออก ย่อมมีผลถึงเลขาธิการพรรค “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สะเทือนถึงรองหัวหน้าพรรค “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ทว่า เมื่อเรื่องรู้ถึงหู ผู้มีบารมีนอกพรรค “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นลูกพี่ “ก๊กสี่กุมาร” หอบหิ้วลูกน้องเทียบชั้นเสนาบดี 2 รัฐบาลตู่1-ตู่ 2 เสี่ยงตายเป็นนั่งร้านให้ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็น “นายกฯสองสมัย”
“สมคิด” เรียกประชุม “วาระการเมือง” ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มี “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็น “เจ้าที่” พร้อมกับ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พหรมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
แกนนำคนสำคัญ-สุริยะ เบอร์ใหญ่ “ก๊กสามมิตร” ที่มี “สัญญาใจ” กับ “สมคิด” ตั้งแต่อยู่ไทยรักไทย เป็น “ตัวประสาน” แกนนำกลุ่มสามมิตรคนที่เหลือ อย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
“เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท-รองประธานยุทธศาสตร์พรรค ที่มีลุ้นติดโผครม.ตู่ 2 “ธนกร วังบุญคงชนะ” โฆษกพรรค และ “เสี่ยโฟม” พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ-นายทุนพรรค
นับรวมถึง “วราเทพ รัตนากร” อดีตขุนพลทักษิณ – หัวหน้ากลุ่มกำแพงเพชร ไม่ให้เปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐในเวลานี้
คู่ขนานกับ “วอร์รูม” ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่มี “สุชาติ ชมกลิ่น” ส.ส.ชลบุรี เป็นประธาน ส.ส.พรรค เพื่อตระเตรียม “แผนสังหาร-เด็ดปีก” หัวหน้า-เลขาธิการพรรค
โดยมีข่าวลือ “เสี่ยตั๊น” ณัฏฐพล-แกนนำกลุ่มกทม. “ไขก๊อก” ลาออกจากกรรมการบริหารพรรค เพื่อเป็น “แม่เหล็ก” ให้กรรมการบริหารเลือกข้าง-ลาออกจากกรรมการบริหารเหลือ “ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง”
เปิดทางเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ทันที
“ข้อบังคับพรรค” ข้อ 15 กรรมการบริหารพรรคการเมืองทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ (1) ครบวาระการดำรงตำแหน่งตามข้อบังคับพรรคการเมือง (4 ปี)
(2) ความเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองของหัวหน้าพรรคการเมืองของหัวหน้าพรรคการเมืองสิ้นสุดลงตามข้อ 14 (ตาย,ลาออก,ขาดจากสมาชิกภาพ,อื่น ๆ ตามที่กฎหมายหรือข้อบังคับพรรคการเมือง)
และ (3) กรรมการบริหารพรรคการเมืองว่างลงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองทั้งหมด และให้เลือกกรรมการบริหารพรรคการเมืองชุดใหม่ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ
อีกด้านหนึ่งจงใจปล่อยแชทไลน์กลุ่ม 20 ส.ส. ถล่มหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรคอย่างดุเดือดแพร่กระจายไปยังนักข่าว
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หนักหน่วง-แรงแรง คนอดยาก-หิวโหยดังระงม ทำให้พล.อ.ประวิตร “พับแผน” ยึดพรรค (ชั่วคราว)
แล้วมาเปิดศึกรื้อโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค-ล้างโผครม.กันใหม่ “ยกที่สาม” ในเดือนมิถุนายน