เปิดข้อกล่าวหาซักฟอก 6 รัฐมนตรี
ประยุทธ์ : ล้มล้างรัฐธรรมนูญ-สืบทอดอำนาจ
การอภิปรายไม่ไว้ใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ครั้งแรกในชีวิต” และเป็นการตรวจสอบผ่านกลไกรัฐสภา-กติการะบอบประชาธิปไตยครั้งแรกในรอบ 7 ปี กำลังจะระเบิดศึกขึ้นลากยาว 4 วัน 4 คืน
พรรคฝ่ายรัฐบาลเคาะวันเปิดศึกซักฟอกรวบรัด-ตัดบท ระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ และลงมติในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ก่อนปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 29 กุมภาพันธ์
สำหรับรายชื่อ 6 รัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตติซักฟอก-จองกฐิน ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
3.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 4.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 5.นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ 6.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
พรรคฝ่ายค้าน “ล๊อคเป้า” รัฐมนตรี 2 ยุค ที่มาจากรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ หวังที่จะ “ขุดของเก่า” ในยุครัฐบาลคสช.มา “เล่นงาน” และโจมตี “จุดอ่อน” พล.อ.ประยุทธ์ปม “เศรษฐกิจ”
ตรงกันข้ามกับรัฐมนตรีโควตาพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่มีชื่อติดโผซักฟอก โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้สินค้าเกษตรของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เกิดการ “กดราคา” จากพ่อค้ารายใหญ่
โดยพรรคพลังประชารัฐจัด 20 ขุนพลเป็น “องครักษ์พิทักษ์ 3 ป.” คอยยกมือประท้วง-ป่วน-ชิงปิดอภิปราย ขณะที่พรรคฝ่ายค้านจัดชุดใหม่ 50 ขุนพล ลับฝีปาก-โชว์ของ
“สุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะแกนนำสามมิตร มั่นใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้พรรคฝ่ายรัฐบาล “เสียงเกินครึ่ง” ไม่จำเป็นต้องใช้บริการเสียงงูเห่า
ขณะที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม-แกนนำกลุ่มสามมิตร ยอมรับว่า “ความเครียดลดลง” ภายหลัง 5 เสียงจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ ถอนตัวออกจากพรรคฝ่ายค้าน มาร่วมรัฐบาลเต็มตัว
สำหรับข้อกล่าวหาที่พรรคฝ่ายค้านจะหยิบยกมาลับฝีปาก-ซักฟอก 6 รัฐมนตรี ล้วนแล้วแต่เป็นวาทกรรมทางการเมือง-หลอกด่า
@ ล้มล้างรัฐธรรมนูญ-สืบทอดอำนาจ
พล.อ.ประยุทธ์ : เป็นผู้ไม่ยึดมั่นและศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ล้มล้างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ใช้อำนาจที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม ละมิดหลักนิติธรรมและสิทธิเสรีภาพของบุคคลอย่างกวางขวาง เป็นผู้นำประเทศที่กร่างเถื่อน มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ปิดปากผู้ที่มีความเห็นต่าง ชอบก่นด่าเมื่อถูกซักถาม
เมื่อได้อำนาจมาโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็สร้างกลไกในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อมุ่งสืบทอดอำนาของตนองปล่อยให้มีการทุจริตเต็มบ้านเต็มเมืองใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง บริวารและพวกพ้องเข้าข้างคนชั่วที่เป็นพวกโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม
บริหารราชการแผ่นดินโดยขาดความรู้ความสามารถผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ขาดคุณธรรม จริยธรรม แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจำ และองค์กรในกระบวนการยุติธรรมเรียกได้ว่าเป็นยุคยุติธรรมหมดตรง บังคับใช้กฎหมายโดยเลือกปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักความเสมอภาค ไม่เคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ไม่ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ เปิดเผย ไม่มีความรอบคอบและระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม
มีการกระทำอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติทุจริตต่อหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่รักษาวินัยการเงินการคลัง ใช้งบประมาณของรัฐสร้างคะแนนนิยมให้กับตนเองและพรรคการเมืองโดยมิได้คำนึงถึงภาระด้านงบประมาณของประเทศเป็นยุคที่เงินกำลังจะหมดคลัง
ไม่ยึดตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ลุแก่อำนาจ ขาดภาวะผู้นำ ไม่เสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรม ผาสุก และสามัคคีปรองดองกัน แต่กลับสร้างความขัดแย้งให้ขยายวงกว้าง ล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพในการดูแลด้านเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจกับประชาชนทุกภาคส่วนจนก่อให้เกิดสภาพ “รวยกระจุก จนกระจาย” ประชาชนสิ้นหวังให้ความสำคัญกำการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มากกว่าปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ล้มเหลวในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
หลอกลวงประชาชนไม่ทำตามนโยบายที่พรรคการเมืองที่สนับสนุนตนหาเสียงไว้ทั้งเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ราคาพืชผลทางการเกษตรและลดภาษีเงินได้ ไม่มีความชื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ การบริหารราชการแผ่นดินส่งผลกระทบและความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างกว้างขวาง เป็นยุคที่ทุจริตเฟื่องฟู น้ำกำลังจะหมดเขื่อน มวลอากาศเป็นพิษเต็มเมือง เศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง หากปล่อยให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงจุนประเทศถึงแก่ความล่มจมได้
@ ร่ำรวยผิดปกติ-ซื่อสัตย์สุจริตไม่เป็นที่ประจักษ์
พล.อ.ประวิตร : ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองและพวกพ้อง ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเอง มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
@ อภินิหารทางกฎหมาย
นายวิษณุ : มีหน้าที่รับผิดชอบด้านกฎหมายได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่าย แทรกแซง การปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรในกระบวนการยุติธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายด้านการเงินแก่รัฐจำนวนมาก บังคับใช้และตีความกฎหมายโดยไม่ยึดหลักการและบรรทัดฐานที่ถูกต้อง จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องของอภินิหาร ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ชี้นำการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและองค์กรอิสระและไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
@ เอื้อประโยชน์พวกพวก-แทรกแซงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พล.อ.อนุพงษ์ : บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ฉ้อฉล ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง บริวารและพวกพ้อง กลั่นแกล้งข้าราชการประจำ ก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ประจำของข้าราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและประพฤติมิขอบในหน่วยงานที่กำกับดูแลอย่างกว้างขวาง
จงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ละเว้นไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและไม่มีความชื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
@ ชักศึกเข้าบ้าน
นายดอน : บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม มีพฤติการณ์ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ประจำของข้าราชการเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยมิใช่อำนาจหน้าที่ของตนตามที่กฎหมายบัญญัติ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นไปตามครรลองที่กำหนดไว้ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทข้ามชาติ
ส่อว่าจงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจ ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง นำพาชาติเข้าสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศและไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
@ มาเฟีย-ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี
ร.อ.ธรรมนัส : บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เข้าสู่ตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ปกป้องพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ
พรรคฝ่ายค้านใครจะดับ-ใครจะแจ้งเกิด ใครจะอยู่-ใครจะไปหลังเสร็จศึกซักฟอกเกาะขอบเวทีสภาด้วยใจระทึก