“คสช.”จับตา นักการเมืองขยับ!
นับถอยหลังใกล้เลือกตั้ง ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งได้เห็นนักการเมืองออกมาออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น
จากกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมทางการเมือง ตามที่ออกคำสั่งมาตรา 44 ที่สั่งห้ามพรรคการเมืองประชุมพรรคและทำกิจกรรมทางการเมือง
ล่าสุดกลุ่ม “สโมสร ส.ส.”ที่ประกอบด้วย อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยกว่า 50 คน นัดพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน โดยอดีตส.ส.ที่มาร่วมงาน อาทิ นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีตส.ส.กาฬสินธุ์ นายจักรพันธ์ ยมจินดา อดีตส.ส.ระยอง นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร อดีตส.ส.พัทลุง นายวิชาญ มีนไชยนันท์ อดีตส.ส.กรุงเทพ, นายเอกภาพ พลซื่อ อดีตส.ส.ร้อยเอ็ด นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร อดีต ส.ส.มหาสารคาม นายดนัยฤทธิ์ วัชราภรณ์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ ร.อ.รัชตะ พิสิษฐบรรณกร อดีตส.ส.กรุงเทพ นางลลิตา ฤกษ์สำราญ อดีต ส.ส.กรุงเทพ ฯลฯ สำหรับกลุ่มส.ส.ดังกล่าวได้รวมตัวกันมาประมาณ 2 ปีแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่อดีตส.ส.กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ปากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า “มีวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดอยู่ในห้องจัดงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องอพยพ ผู้พักอาศัยในโรงแรมทั้งหมด ขอให้ผู้ที่อยู่บริเวณชั้นสองเท่านั้นที่อยู่บริเวณพื้นที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบวัตถุระเบิดใช้เวลาตรวจสอบพื้นที่เพียงไม่นานก็ไม่พบวัตถุต้อง”
โดย “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดว่า “ไม่ใช่เรื่องน่าห่วง แต่การรวมตัวกันอย่างนี้ไม่น่าทำได้ หากเขามาพูดคุยกันและรับประทานข้าวร่วมกันธรรมดา ก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าจะมาถ่ายรูปร่วมกันแล้วจัดกิจกรรมอะไรอย่างนั้น ไม่ได้ และหากเขาจะนัดพบปะกันอีกเพื่อมาพูดคุยถึงเรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง ก็ไม่น่าจะทำได้ เพราะตอนนี้เราต้องการให้อยู่เฉยๆ และอย่าเพิ่งมาเสนออะไร ทั้งนี้เราจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไป แต่ขอย้ำว่ายังไม่ปลดล็อกอะไรทั้งนั้น”
สำทับด้วย“พ.อ.วินธัย สุวารี” โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ระบุว่า ประเด็นนี้คสช.ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบ แต่เป็นหน้าที่ของตำรวจในพื้นที่ดำเนินการ ส่วนการสังสรรค์ดังกล่าวขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องให้ต้องเจ้าหน้าตำรวจหรือทหารในพื้นที่ใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจ และเป็นคนตอบคำถามจะดีกว่า
ขณะที่ 1 ในอดีต 50 ส.ส.ที่ร่วมวงครั้งนี้ อย่าง “วิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์” กล่าวเพียงสั่นๆว่า “ถ้าจะห้ามแค่โทรบอกได้ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ คนแก่ อายุ 60 กว่า ที่มีเพื่อนเป็นนักการเมืองนัดสังสรรค์พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบ แค่หวังว่าจะสร้างความรักความสามัคคีเป็นตัวอย่างเป็นกระจกให้นักการเมืองใหม่”
ขณะเดียวกัน “วิชาญ มีนไชยนันท์” ที่มีชื่ออยู่ในกลุ่ม 50 อดีตส.ส.ด้วย กล่าวปฏิเสธ ว่า “ไม่เคยไปทานข้าวกลับกลุ่มดังกล่าว และเมื่อวันที่ 10มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนไม่ได้ไปร่วมงานด้วย ทราบเพียงว่ากลุ่มดังกล่าวนัดทานข้าวกันบ่อยครั้งเดือนละครั้ง กว่าปีแล้ว ซึ่งอดีตส.ส.กว่า 50 คน คงไปทานข้าวพูดคุยเรื่องทั่วไปทั้ง เรื่องข่าว เรื่องการเมือง แต่ไม่ได้คุยเรื่องจัดตั้งพรรคตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้ส่วนตัวยังอยู่พรรคเพื่อไทย และยังไม่ได้ไปไหน”
ส่วนฟากการเมือง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวตบท้ายว่า “การรวมตัวกันย่อมพูดคุยเรื่องงานการเมือง ไม่มีทางที่จะพูดคุยถามทุกข์สุขหรือเรื่องอาหารการกินเท่านั้น อีกทั้งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อดีตส.ส.กลุ่มนี้รวมตัว อย่างไรก็ตาม นับจากนี้ขอให้จับตาจะมีนักการเมืองรวมกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และจะทำในรูปแบบแปลกๆมาบังหน้าว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง และยิ่งใกล้จะมีการเลือกตั้ง การเคลื่อนไหวอย่างนี้จะออกมาถี่ขึ้นและใช้รูปแบบที่เปลี่ยนไป ซึ่งตนเชื่อว่าเมื่อถึงวันหนึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)คงต้องยอมให้จัดกิจกรรมได้”