“สปท.” ชง “บิ๊กตู่”ใช้ม.44 เร่งกฎหมายปฏิรูป
ปฏิสธไม่ได้ช่วงระยะหลัง“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เงียบหายจากการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปพักใหญ่
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ระบุว่า ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท. ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปจำนวน 36 ฉบับ จากทั้งหมด 27 วาระ
โดยมีเนื้อหาระบุว่า “หากดำเนินไปตามขั้นตอนปกติ กฎหมายจะออกมาบังคับใช้ไม่ทันภายในปี 2560 เนื่องจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีภาระงานล้นมือ ทั้งนี้ ได้หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) แล้ว และเห็นตรงกันว่าควรใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปด้านต่างๆ ซึ่งเป็นการใช้ มาตรา 44 ในเชิงสร้างสรรค์ตามที่โพลทุกครั้งเรียกร้องเสมอมา ยกเว้นบางเรื่องที่ควรตราเป็นพระราชบัญญัติ ก็ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของนายวิษณุให้คำแนะนำ “
สำหรับกฎหมายทั้ง 36 ฉบับที่เสนอให้ใช้มาตรา 44 อาทิ กฎหมายเสริมสร้างวัฒนธรรมการเมืองในระบอบประชาธิปไตย,กฎหมายการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม,กฎหมายบริหารจัดการสุขภาพ, กฎหมายจัดตั้งธนาคารที่ดิน, กฎหมายว่าด้วยระบบงบประมาณและการคลัง, กฎหมายการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาตลอดชีวิต และกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ วาระการปฏิรูป 27 วาระ คือ การปฏิรูปเศรษฐกิจฐานราก, การปฏิรูประบบงบประมาณ, การปฏิรูปกลไกภาครัฐเพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาล, เศรษฐกิจดิจิทัล และการปฏิรูปสื่อมวลชน
ด้าน “ ”รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า“ผมไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และไม่ทราบว่าไปเสนอกันที่ไหน ถ้าเสนอมารัฐบาลก็มีแนวพิจารณาในการคิดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าคิดอะไรให้สวนกลับกัน ผมเชื่อว่า สปท.คงมองว่าล่าช้าและกลัวว่าจะไม่ทัน ซึ่งไม่เป็นไร ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่เห็นว่าจะต้องทำไปทั้งหมด เลือกเอาแต่ที่สำคัญก็ได้ อย่าคิดทำอะไรมากเกินไป ผมเห็นใจ สปท.มีเจตนาดี เพราะคิดและมีผลงาน จึงต้องการผลักดันให้เสร็จเหมือนส่งขึ้นฝั่ง แต่ในแง่รัฐบาล เราพยายามระมัดระวังการใช้มาตรา44 ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ แต่เมื่อใช้แล้วก็จะขมวดท้ายว่าไปทำให้เป็น พ.ร.บ.โดยเร็ว เพื่อให้อยู่อย่างยั่งยืน วันนี้ผมได้นั่งดูคำสั่งและประกาศ ทั้งที่ใช้มาตรา 44 และไม่ใช้มาตรา 44 มีทั้งเลิกใช้แล้ว และเตรียมจะยกเลิกก็มี แล้วยังจะให้มาเพิ่มอีก 36 ฉบับ เอาไว้หารือกันอีกครั้ง”
ขณะที่ “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เข้าใจว่า สปท.กำลังเสร็จสิ้นภารกิจของตัวเอง ขณะที่ คสช.และ สนช.ก็มีเวลาน้อยลง คงเป็นห่วงว่าทุกอย่างจะสูญเปล่า และคงอยากมีผลงาน แต่การปฏิรูปจะสำเร็จหรือไม่นั้น อยู่ที่ต้องทำให้สังคมมีความเป็นเจ้าของการปฏิรูปได้หรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่การออกกฎหมาย หากใช้มาตรา 44 ออกกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูป ก็จะสวนทาง รวมทั้งได้เห็นชื่อร่างกฎหมายที่ สปท.เสนอให้ใช้มาตรา 44 แล้วตนก็กลุ้มใจ แต่เชื่อว่ากฎหมายที่เสนอหลายตัวจะเป็นเรื่องดีๆ เช่น ร่างกฎหมายจัดตั้งธนาคารที่ดิน แต่หลายเรื่องเราไม่รู้ว่าหลักคิดคืออะไร
ส่วน “ลูกพรรคปชป.”อย่างองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุไม่เห็นด้วยที่จะใช้มาตรา 44 เพื่อออกกฎหมายปฏิรูป เพราะการใช้มาตรา 44 ควรเป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนจริงๆ แต่เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน และอาจทำให้ได้กฎหมายที่ไม่มีความสมบูรณ์เพียงพอ เนื่องจากไม่ได้ผ่านกระบวนการของการฟังความคิดเห็นที่หลากหลายรอบด้านจากสังคมเท่าที่ควร และจะเป็นกฎหมายที่ไม่ได้รับการยอมรับ เพราะไม่ได้ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องเหมาะสม สปท.ควรทำงานแค่ไหนก็แค่นั้น ควรให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่ตั้งใหม่นี้เขาไปคิดต่อบ้าง การใช้มาตรา 44 ออกกฎหมายทีเดียวทั้ง 36 ฉบับ อาจทำให้เกิดความไม่รอบคอบ และอาจขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้มีกรรมการยุทธศาสตร์ขึ้นมา