กองทัพภาคที่ 2 แถลงแนวรบ 4 จว.อีสาน ยังระอุ ไทย-กัมพูชา ยังเปิดฉากยิงต่อเนื่อง
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 15 ธันวาคม 2568 (เวลา 09.00 น.)
สถานการณ์โดยรวม ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ดังนี้
พื้นที่ช่องบก: สถานการณ์ตึงเครียดสูง มีการปะทะด้วยอาวุธหนักเป็นระยะ ทกพ. พยายามรักษาที่มั่นบนเนินสำคัญและเตรียมรับมือการถูกปิดล้อม และใช้การยิงสนับสนุนเมื่อฝ่ายไทยเคลื่อนที่เข้าใกล้
พื้นที่ช่องอานม้า: เป็นจุดปะทะรุนแรงที่สุด แนวตั้งรับชั้นแรกถูกเจาะทำลาย ประสบวิกฤตด้านขวัญกำลังใจและเสบียง ตอบโต้ด้วยการระดมยิง BM-21 แบบปูพรมใส่พื้นที่ส่วนหลังของไทย คาดว่าจะร่นถอยไปตั้งรับในแนวลาดด้านหลัง
พื้นที่สัตตะโสม – โดนตรวล – ซำแต: พื้นที่นี้ทำหน้าที่เป็น “ศูนย์กลางโดรน” โดยพบการรวมศูนย์โดรนเพื่อชี้เป้าและสนับสนุนพื้นที่ข้างเคียงโดย ทกพ. ใช้ยุทธวิธี “ยิงแล้วย้าย” เพื่อหลบหลีกการยิงสวนกลับ โดยอาศัยภูมิประเทศป่าทึบในการซ่อนพราง
พื้นที่ห้วยตามาเรีย: ทกพ. มีคำสั่งให้เสริมความแข็งแรงบังเกอร์ เน้นการยิงรบกวน เพื่อทำลายสิ่งปลูกสร้างของฝ่ายไทย โดยจะตรึงกำลังบริเวณวัดแก้วฯ และใช้อำนาจการยิงจากพื้นที่ของไทย
พื้นที่ภูมะเขือ: ทกพ. เสียเปรียบทางยุทธวิธีอย่างหนักจนไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ จึงปรับแผนเป็น “การทำลายพื้นที่” โดยใช้ BM-21 ยิงประณีตใส่ยอดเขาแบบต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าฝ่ายไทยจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวได้ แม้จะต้องถอนกำลังภาคพื้นดินออกไป
พื้นที่ช่องจอม – ช่องระยี – ปลดต่าง: มีการเพิ่มเติมกำลังพลใหม่ประมาณ 300 นาย พร้อมมาตรการควบคุมการสื่อสาร และพรางไฟที่เคร่งครัด บ่งชี้ถึงการเตรียมการตีโต้ตอบ พร้อมการปล่อยข่าวลวงเรื่องการถอนตัวของไทยเพื่อรักษาขวัญทหาร
พื้นที่ช่องคนา: ฝ่ายเราสร้างแรงกดดันอย่างหนักจน ทกพ. ต้องร้องขอการยิงปืนใหญ่แบบใกล้ฝ่ายเดียวกัน เพื่อสกัดกั้น ปัจจุบันกำลังส่วนใหญ่ร่นถอยไปด้านล่าง
พื้นที่ตาควาย – เนิน 350: การรบประชิดรุนแรงจนเสีย ผบ.หน่วยระดับสูง ของกัมพูชา ทกพ. ใช้ยุทธวิธี “ยอมแลก” โดยระดมยิง FPV และ BM-21 เข้าใส่พื้นที่ของตนเอง เพื่อยื้อแย่งพื้นที่เชิงสัญลักษณ์และหยุดการเข้าตีของไทย
พื้นที่ตาเมือน: ระบบควบคุมบังคับบัญชาของฝ่าย กพช. ถูกฝ่ายเรา รบกวนทำให้เกิดความระแวงและต้องเปลี่ยนรหัสวิทยุบ่อยครั้ง โดยหน่วยระดับล่างจะปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุโดยทันทีเมื่อขาดการติดต่อสื่อสาร
เรื่องสำคัญอื่นๆ
แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ออกคำสั่งควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง และยุทธภัณฑ์ ผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อ.สิรินธร จว.อุบลราชธานี โดยมีผลตั้งแต่ เวลา 24.00 น. ของวันที่ 14 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการลักลอกขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และยุทธภัณฑ์ ไปยังประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นว่ามีสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งได้ในช่องทางสายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หมายเลข 1374
.
กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลจากทางราชการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่อไป


