“ทักษิณ” อหังการ เกมต่อรองขั้วอำนาจเก่า

เรื่องของทักษิณ ชินวัตร เกมการเมือง ต่อรองขั้วอำนาจเก่า
“มีคนบอกว่าผมโกง โกงพ่อมึงสิ ผมเข้ามาการเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นประกาศทรัพย์สินทั้งที่ ป.ป.ช.ไม่บังคับ ผมประกาศมีทรัพย์สินกว่า 60,000 ล้าน เพราะทำธุรกิจมา สร้างเนื้อสร้างตัวมา วันนี้โดนยึดไป 46,000 ล้าน ยังไม่ร้องสักคำเลย ทั้งๆ ที่เป็นเงินที่ทำมาหากินมาแท้ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง ก็มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวย มึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย”
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยที่ จ.มหาสารคาม วันที่ 20 ม.ค.68

จะเห็นว่าการปราศรัยของทักษิณ ในช่วงหลังนี้ล้วนเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ดุเดือดดุเด็ดเผ็ดมัน มีการพาดพิงกล่าวถึงศัตรูทางการเมืองเกือบทุกเวที โดยเฉพาะกลุ่มที่เคยยึดอำนาจเมื่อครั้งที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี และกลุ่มคู่อริทางการเมืองในปัจจุบัน
ในทางการเมืองแม้จะมองดูว่า ทักษิณ ได้เป็นส่วนหนึ่งของขั้วอำนาจเก่า ที่พรรคเพื่อไทยได้จับมือตั้งรัฐบาลร่วมกันในขณะนี้ แต่มองลึกๆก็เป็นเพียงการจับมือแบบหลวมๆ เป็นเหมือนการร่วมรัฐบาลเฉพาะกิจ เพื่อสกัดกั้นพรรคการเมืองสีส้ม ไม่ให้ขึ้นมามีอำนาจจัดตั้งรัฐบาล
เอาเข้าจริงขั้วอำนาจเก่า ก็ไม่ได้ไว้ใจทักษิณและพรรคเพื่อไทยซะทีเดียว เพราะอย่างที่ทราบว่า แนวทางของพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร ถือว่าเป็นคนละแนวทางกับขั้วอำนาจเก่าอย่างสิ้นเชิง

เพราะที่ผ่านมาทักษิณ ทำการเมืองแบบทุนนิยมประชาธิปไตย และมีความเป็นเสรีนิยมอยู่หน่อยๆ
ผิดกับขั้วอำนาจเก่า ที่เดินเกมแบบอนุรักษ์นิยมเต็มสูบ จึงทำให้ดูเหมือนว่า 2 ขั้วนี้จะไม่สามารถมาบรรจบกันได้ แต่ที่สุดก็มาร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อปี 2566
เช่นเดียวกับทักษิณ ก็ไม่ได้ไว้วางใจขั้วอำนาจเก่าเสียทีเดียว ทักษิณรู้อยู่ตลอดเวลาว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของเกมการเมืองฝั่งขั้วอำนาจเก่า ซึ่งทางออกของทักษิณก็คือ สร้างพรรคเพื่อไทยให้แข็งแกร่ง เป็นที่นิยม ซึ่งจะเป็นอำนาจต่อรองที่ดีที่สุด ที่ทักษิณและพรรคเพื่อไทย จะใช้ต่อรองกับขั้วอำนาจเดิมได้
สำหรับฐานเสียงฝ่ายอนุรักษ์นิยม ขณะนี้ หลักๆอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นำโดย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร

พีระพันธุ์ มีคะแนนนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคะแนนนิยมเดิมที่เคยเชียร์ลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เดี๋ยวนี้ได้หันมาเชียร์ พีระพันธุ์ กันหมดแล้ว ทำให้คะแนนนิยมของพีระพันธุ์และพรรครวมไทยสร้างชาติ สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในช่วงปีใหม่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งคณะรัฐมนตรี โดยปรับ พีระพันธุ์ ออกจาก ครม.
นั่นทำให้ทักษิณต้องรีบมาออกมาสยบข่าวโดยบอกว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันพีระพันธุ์ อีกทั้งยังคุยกันตลอด
แน่นอนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่กล้าเขี่ยพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกจาก ครม. เพราะถ้าเขึ่ยพ้น ครม.เมื่อไหร่ รับรองได้ว่ารัฐบาลอายุสั้นทันที

มวลชนที่สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติในขณะนี้ เดิมก็ไม่อยากให้มาร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว และถ้าเพื่อไทยเขี่ยรวมไทยสร้างชาติออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะก่อให้เกิดกระแสการต่อต้านรัฐบาลที่ใหญ่ขึ้น
นั่นเป็นจุดที่ทักษิณประเมินแล้วว่าการเขี่นพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติออกจากคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องได้ไม่คุ้มเสีย ไม่ควรไปเสี่ยง
เพราะก่อนหน้านี้ ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ได้เขี่ย บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และพรรคพลังประชารัฐ พ้น ครม.แล้ว
หากเขี่ย พีระพันธุ์ และ รวมไทยสร้างชาติ ออกอีก รับรองได้ว่ารัฐบาลแพทองธาร อยู่ได้ไม่นาน