“สุชัชวีร์” เสนอนำร่อง 16 เขต กทม. เป็นโซนมลพิษต่ำ สู้ฝุ่นพิษ
“สุชัชวีร์” เสนอนำร่อง 16 เขต กทม. ชั้นใน ให้เป็นโซนมลพิษต่ำ สู้ฝุ่นพิษ เน้นควบคุมที่ “ต้นกำเนิด” PM 2.5 ในตัวเมือง
วันที่ 14 ม.ค.2568 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอ “Bangkok Low Emission Zone” หรือ “B-LEZ” (บีเลส) เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย โดยนำร่อง 16 เขตกรุงเทพชั้นใน บริเวณเขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดุสิต พญาไท ราชเทวี ปทุมวัน สาทร บางรัก บางคอแหลม บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ คลองสาน ธนบุรี และเขตยานนาวา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 130 ตารางกิโลเมตร
โดยให้เหตุผลว่า เขตกรุงเทพฯ ชั้นใน มีประชากรหนาแน่น มีทั้งผู้อยู่อาศัย ผู้มาทำงาน และนักเรียน ที่มีโรงเรียนและโรงพยาบาลอยู่ในพื้นที่นี้มากที่สุด ทำให้ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีการก่อสร้างมากที่สุด มีปัญหามากที่สุดและส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดต่อคนกรุงเทพ และเป็นพื้นที่แนวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่พร้อมที่สุด ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากกว่าพื้นที่อื่น
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นี่คือ “เป้าหมาย” และ “วิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม” ที่เราต้องทำทันที รอไม่ได้ เพราะกรุงเทพมหานครมี “ความหนาแน่นขึ้น” ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถยนต์เพิ่มขึ้นตาม ปัญหาการจราจรติดขัด และ มลพิษทางอากาศก็ตามมา โดยเฉพาะปัญหา PM 2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพและชีวิตของพลเมือง
นอกจากนี้ได้ยกตัวอย่าง กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ได้ต่อสู้จนชนะสงครามกับฝุ่นพิษและวิกฤตหมอกควัน ด้วยการเน้นควบคุมที่ “ต้นกำเนิด” ของ PM 2.5 ในตัวเมือง ซึ่งหนึ่งในวิธีนั้นคือ “การกำหนดพื้นที่เขตมลพิษต่ำ” หรือ Low Emission Zone (LEZ) จนมาถึงปัจจุบันกรุงลอนดอนมีการกำหนด Ultra Low Emission Zone (ULEZ) “เขตมลพิษต่ำพิเศษ” ที่ใช้พื้นที่ 1 ใน 4 ของกรุงลอนดอนที่มีผู้อาศัยอยู่กว่า 3.8 ล้านคน โดยพื้นที่นี้จะมีความเข้มงวดและมีมาตรฐานสูงกว่าเขตมลพิษต่ำแบบทั่วไป ทำให้กลายเป็นเมืองที่อากาศสะอาดกว่ากรุงเทพไปแล้ว
สำหรับการประกาศ “เขตมลพิษต่ำ” ของกรุงลอนดอนนั้น เป็นการจำกัดการเข้ามาของยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษสูง ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกเก่าควันดำ รถเมล์ควันโขมง หรือรถอื่น ๆ ที่ปล่อยมลพิษอันตรายน่ากลัว โดยจะมีการมีกำหนดอัตราค่าธรรมตามปริมาณมลพิษรถที่ปล่อยออกมา เมื่อผ่านเขตที่กำหนด ยิ่งรถปล่อยมลพิษสูง ค่าธรรมเนียมยิ่งแพง ส่วนรถที่ปล่อยมลพิษตามมาตรฐาน รถยนต์ไฟฟ้าพลังสะอาด จะไม่มีค่าธรรมเนียม เข้าได้ฟรี ขับได้ตามปกติ เพื่อกระตุ้นให้คนหันมาดูแลรักษารถยนต์ให้มีมาตรฐาน ปล่อยมลพิษน้อยลง ใช้รถพลังงานสะอาดมากขึ้น หรือหันมาเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทน รวมทั้งควบคุมการก่อสร้างที่ไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ให้ประโยชน์ทางภาษีแก่โครงการก่อสร้างที่ป้องกันฝุ่น หรือ “ทำดีต้องได้ดี ทำไม่ดีก็ต้องถูกปรับ“
“ถึงเวลาประกาศ “กำหนดเขตมลพิษต่ำ” ลดควันดำกรุงเทพชั้นในแล้ว เพื่อให้ได้ “อากาศสะอาด” คืนมา ก่อนสุขภาพคนกทม. วิกฤต ยิ่งกว่านี้ ใครไม่เจอด้วยตัวเองไม่รู้ว่าภัย PM2.5 ร้ายแรงกว่าที่คิดมาก! ผมเชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้ชาวกรุงเทพฯ ได้รับอากาศสะอาดกลับคืนมาได้ครับ ทำเถอะครับ เพราะยิ่งช้า ยิ่งสูญเสีย” นายสุชัชวีร์ กล่าว