ก้าวไกล แถลงโต้ กฎหมายย้อนหลัง ตัดสิทธิ ‘ช่อ’ ตลอดชีพ
สส.ก้าวไกล ชี้ปัญหามาตรฐานจริยธรรม เปิดโอกาสกลั่นแกล้งทางการเมือง หวังทุกคนมองเห็นปัญหา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยแท้จริง
วันที่ 21 กันยายน 2566 สส.พรรคก้าวไกล นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพฯ (พระโขนง บางนา) แถลงข่าวกรณีศาลฎีกา มีคำพิพากษาถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิตของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่และอดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ด้วยฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามกฎหมาย
นายปิยรัฐ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจเจาะจงกรณีของ น.ส.พรรณิการ์เท่านั้น แต่ตั้งใจชี้ให้เห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญ อภิปรายหลักนิติธรรมและปัญหาโครงสร้างของประเทศ ที่มีการใช้นิติสงครามเพื่อดำเนินการกับนักการเมือง
เนื้อแท้ของรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ต้องตั้งคำถามว่าปราบใคร และการปราบโกงครั้งนี้เพื่อให้อำนาจองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ออกมาตรฐานจริยธรรมของตนเองขึ้นมา ส่งผลต่อไปยัง สส. สว. ไปจนถึงรัฐมนตรี ให้อยู่ภายใต้มาตรฐานจริยธรรมชุดนี้ด้วย ทำให้เกิดปัญหาตามมา เมื่อ สส. สว. หรือรัฐมนตรี มีปัญหาข้อพิพาทใดก็ตามเกี่ยวกับจริยธรรม ก็ไม่ได้จบหรือเอาผิดกันแค่ในองค์กรของตนเอง แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 235 กลับให้อำนาจองค์กรอิสระวินิจฉัยหรือส่งเรื่องต่อเพื่อเอาผิด เรื่องนี้เป็นปัญหามาก ทั้งการลงโทษที่ไม่ได้สัดส่วน การลงโทษซ้ำซ้อน แม้จะมีโทษทางการเมืองไปแล้ว ก็ยังมีโทษตัดสิทธิย้อนหลังอีก
นายปิยรัฐ กล่าวต่อว่า ต้องตั้งคำถามต่อองค์กรอิสระด้วยว่า ในอดีตก่อนดำรงตำแหน่ง ท่านเคยผิดจริยธรรมหรือไม่ เพราะกรณี น.ส.พรรณิการ์ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนจึงเชื่อว่านี่ไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง แต่เป็นรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้มีการใช้เครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมือง ปราบนักการเมืองที่ไม่ยอมจำนน ให้สยบอยู่ใต้กฎหมายนี้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สังคมต้องตั้งคำถาม เพราะเป็นปัญหาของทุกคน เราจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย เป็นหลักนิติรัฐนิติธรรมโดยแท้จริง
ด้าน น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กรุงเทพฯ (สายไหม) ร่วมแถลงย้ำถึงหลักกฎหมายเบื้องต้น คือไม่ควรมีกฎหมายลงโทษย้อนหลัง รวมถึงความไม่ได้สัดส่วนของการลงโทษกับการกระทำความผิด เพราะการตัดสิทธิ์ทางการเมืองนั้น หากเทียบกับกฎหมายอาญา เท่ากับการประหารชีวิตทางการเมือง