บิ๊กป้อม สั่งรับมือน้ำท่วม-น้ำหลาก
“พลเอก ประวิตร” ถก กนช. เห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 66 ก่อนเสนอ ครม. สั่งหน่วยงานเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการ ให้พร้อมรับมือ
ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมี นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบรายงานสถานการณ์น้ำปัจจุบันและการคาดการณ์ สรุปผลการถอดบทเรียนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฤดูฝน ปี 2565 ความก้าวหน้าการดำเนินการตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 ความก้าวหน้าการดำเนินงานแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และผลการดำเนินงานที่สำคัญของคณะอนุกรรมการภายใต้ กนช.
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาเห็นชอบ (ร่าง) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 ที่ปรับจาก 13 มาตรการเดิม จากเมื่อปีที่ผ่านมา เป็น 12 มาตรการใหม่ ดังนี้ 1.คาดการณ์ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและพื้นที่เสี่ยงช่วงฝนทิ้งช่วง 2.การบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก 3.ทบทวน ปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ/เขื่อนระบายน้ำและจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำเชิงบูรณาการ 4.เตรียมความพร้อม ซ่อมแซม ปรับปรุง อาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ โทรมาตร ให้พร้อมใช้งาน และปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ 5.เตรียมพร้อม/วางแผนเครื่องจักร เครื่องมือ บุคลากร ประจำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและพื้นที่เสี่ยงในช่วงฝนทิ้งช่วง ปรับปรุงวิธีการส่งน้ำในพื้นที่เสี่ยงในช่วงฝนทิ้งช่วง 6.ตรวจความมั่นคงปลอดภัย คัน ทำนบ พนังกั้นน้ำ 7.เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ 8.ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ 9.เร่งเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำทุกประเภทช่วงปลายฤดูฝน10.สร้างความเข้มแข็ง เครือข่ายภาคประชาชนในการให้ข้อมูลสถานการณ์ 11.การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ผ่านคณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด องค์กรผู้ใช้น้ำ เครือข่ายต่างๆ และ 12.ติดตามประเมินผลปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัย
โดยรองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 ตามภารกิจของหน่วยงาน และให้คณะกรรมการลุ่มน้ำ นำมาตรการรับมือฤดูฝนดังกล่าว ไปประกอบการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมของลุ่มน้ำ ปี 2566 และเสนอมาตรการรับมือฤดูฝนให้ ครม. รับทราบต่อไป
ด้าน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง และแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ของคณะกรรมการลุ่มน้ำ ทั้ง 22 ลุ่มน้ำ ที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ และคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่ทันในช่วงฤดูฝน ปี 66 ซึ่งตามปฏิทินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค. ของทุกปี ยกเว้นพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ. ของทุกปี ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมในปีนี้ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สทนช. จึงเสนอให้คณะกรรมการลุ่มน้ำพิจารณาใช้แนวทางแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ปี 65 มาใช้เป็นหลักการในการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ปี 66 ไปพลางก่อน ซึ่งประกอบด้วย (ร่าง) แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ที่ สทนช. ได้จัดเตรียมไว้เบื้องต้น มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 66 ตามที่ กนช. เห็นชอบ แผนปฏิบัติการของหน่วยงานภายใต้มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 66 และแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของหน่วยงาน รวมทั้งเพิ่มเติมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564-2570 ที่ ครม. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 65
มาใช้ในบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฤดูฝนปีนี้ด้วย
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อสามารถเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที รวมทั้งให้เร่งดำเนินการขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่กำหนดไว้ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน.