‘จักรพล’ ชี้ เชื่อมไทย เชื่อมโลก
นำไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรค พท. แถลงว่า จากการที่เข้าประชุมเวทีประชุมสุดยอดประธานรัฐสภาของกลุ่ม G20 ทำให้ตนได้เห็นโอกาสในการพัฒนานโยบายและมาตรการระหว่างประเทศเพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลปัจจุบันว่าจะเห็นโอกาสและคว้าไว้หรือไม่?
นายจักรพล กล่าวต่อว่า การประชุมดังกล่าว จะเน้น 3 สาระหลัก คือ 1.การสร้างเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินของโลก 2.การเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงิน และ 3.การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทั้งชั้นนำและเศรษฐกิจเขตใหม่ และมีประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งหมด 4 หัวห้อ ได้แก่ 1.เร่งการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านเศรษฐกิจสีเขียว BCG 2.การภาวะขาดแคลนอาหารและพลังงาน 3.การสร้างรัฐสภาที่มีประสิทธิภาพและประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง 4.พลังทางสังคม โดยเฉพาะความเท่าเทียมทางเพศและพลังของผู้หญิง ซึ่งตนเองในฐานะตัวแทนประเทศไทยได้เข้าไปเสนอไอเดียต่างๆ เช่น Climate change การบ่งชี้ถึงวิกฤติความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ความเท่าเทียมทางเพศ ความเข้มแข็งของระบบสภาบนพื้นฐานของประชาธิปไตย พลังของคนเยาวชนคนรุ่นใหม่
นายจักรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอดีตสมัยพรรคไทยรักไทยได้นำนโยบายระหว่างประเทสมาใช้และทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น โดยผลการดำเนินงานในสมัยแรกมีการขยายตัวสูงสุดของ GDP อยู่ที่ 6.9% มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 23% อันเนื่องมาจากการเจรจาเปิดการค้าเสรีกับหลายประเทศ หนี้สาธารณะลดลงเหลือร้อยละ 47.8 ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยง่าย และนโยบายการต่างประเทศที่มีนัยยะสำคัญในการพัฒนาประเทศ ภายใต้แนวคิด “เชื่อมไทย เชื่อมโลก” ไม่ว่าจะเป็น การทำนโยบายต่างประเทศเชิงรุก ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) กรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) และยังมีกรอบพหุภาคีอื่นๆอีกมากมาย และตนเชื่อว่าหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง บรรยากาศของความรุ่งเรืองของประเทศไทยจะกลับมาอย่างแน่นอน
“จากการเข้าร่วมประชุมที่ผ่านมาเห็นได้ว่ารัฐบาลยังขาดวิสัยทัศน์และความสามารถในการนำพาประเทศไทยไปสู่เวทีโลก ถึงแม้ว่ารัฐบาลได้มีการนำแนวคิดและหลักการของกระแสโลกมาใช้ แต่หารู้ไม่ว่าตนเองไม่มีความรู้และประสิทธิภาพเพียงพอในการบริหารประเทศ อยู่มาแล้ว 8 ปี แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับสวนทางกลับระยะเวลาที่ตนเองบริหาร ดังนั้นเพื่อไทยจึงขอเสนอตนเองสำหรับการพัฒนาประเทศอีกครั้ง และจะนำแนวคิด เชื่อมไทย เชื่อมโลก นำไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวเพื่อคุณภาพชีวิตประชาชนที่ดีขึ้นและเพื่ออนาคตที่สดใสของคนรุ่นถัดไป” นายจักรพลกล่าว
“นพ. กิตติศักดิ์” จี้ “ประยุทธ์” เร่งช่วยประชาชนเรื่องน้ำท่วม
นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคาม คณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศไทยเป็นปัญหาที่สาคัญที่รัฐบาลควรเร่งแก้ไข และปัจจุบันประเทศไทยได้เกิดภัยพิบัตินาท่วมหลายจังหวัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงควรเร่ง ช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาให้กับประชาชนโดยเร่งด่วน ทั้งการช่วยเหลือโดยเร่งด่วนในเบื้องต้น การช่วยเหลือหลังน้ำลด สิ่งไหนที่ก่อให้เกิดประโยชน์และผลดีช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที สามารถยกเว้นระเบียบทางราชการได้ก็อยากให้รัฐบาลเร่งทำทันที โดยที่ไม่หวังผลในทางการทุจริตมากกว่าการช่วยเหลือประชาชน เพราะในบางเรื่อง ถ้ารอปฏิบัติตามระเบียบราชการมากเกินไป ก็จะไม่ทันท่วงทีในการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน
ทั้งนี้ ในการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 ท่านอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ชดเชยน้ำท่วมบ้านพักอาศัย และทรัพย์สินหลังละ 5,000 บาท ทรัพย์สินเครื่องมือประกอบอาชีพ ครอบครัวละไม่เกิน 10,000 บาท ไร่นาเกษตรกร ปลูกข้าวไร่ละ 2,222 บาท แต่ในปี 2564 รัฐบาลชุดปัจจุบันเยียวยาข้าวไร่ละ 1,340 บาท จึงอยาก ให้รัฐบาลได้พิจารณาเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี โดยคำนึงถึงภาวะทางเศรษฐกิจ และต้นทุนในปัจจุบัน การพัฒนาหลังน้ำลด รัฐบาลควรเร่งพัฒนาซ่อมแซมปรับปรุงถนนหนทางและ คันคลอง หรือเครื่องมือต่างๆที่ชารุดจากปัญหาอุทกภัยในครังนี้ โดยเฉพาะประตูระบายน้ำโดยเร่งด่วน เพราะหากมัวรองบประมาณประจำปีก็ไม่ทันต่อการแก้ไขปัญหาดังเช่นปัจจุบัน อาทิเช่น จังหวัดมหาสารคาม เมื่อปีที่2564 ที่ผ่านมาเกิดปัญหาอุทกภัย หลังนำ้ลดได้ทำเรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ในเรื่องการปรับปรุงซ่อมแซมสถานีสูบนา 2 แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน ทำให้ ปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้เครื่องมืออุปกรณ์ไม่มีความพร้อมในการระบายน้ำ และอีกหลายปัญหา
โครงการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมปี2564 ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้รับงบประมาณมาดำเนินการแก้ไข ทำให้ปัจจุบันจังหวัดมหาสารคาม เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักและขยายวงกว้างเสียหายเป็นจานวนมาก จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและป้องกันน้ำท่วมให้เป็นระบบโดยเฉพาะ จังหวัดที่อยู่ตามลุ่มสายทางน้ำหลักๆที่สาคัญ ที่ประสบปัญหาเดิมๆแบบนี้ทุกปีพร้อมกับใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่ามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
อนุสรณ์ แนะ ประยุทธ์ ประกาศให้ชัด จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กระตุ้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รีบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพปชร.หากไม่ลงมือทำ พรรคพปชร.อาจล่มสลายเหมือนพรรคทหารในอดีต ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจดีใจจนทำตัวไม่ถูกหลังรอดพ้นจากปมเป็นนายกฯเกิน 8 ปี ช่วงเวลาที่สามารถเป็นนายกฯได้ถึงปี 2568 จะไม่มีความหมายเลย ถ้าประชาชนไม่เลือกพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน โอกาสล่มสลายซ้ำรอยพรรคทหารเฉพาะกิจในอดีตสูง 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน มองประชาชนเป็นพลทหารในค่ายที่พร้อมสั่งซ้ายหันขวาหันตามอำเภอใจหรือไม่ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าใจบริบทประชาชน ในที่สุดก็ไม่สามารถออกนโยบายที่โดนใจประชาชน การทำนโยบายจึงไม่สอดรับกับสภาพปัญหาที่แท้จริงของประเทศ ถ้าไม่นับสารพัดโฆษกที่ออกมาอวย ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รัฐบาลทำอะไรบ้าง นอกจากการบริหารงานที่สับสน ออกมาตรการที่ผิดพลาดล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถุงมือยางหาย หน้ากากอนามัยล่องหน วัคซีนล่าช้าไม่เพียงพอกับความต้องการ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก พล.อ.ประยุทธ์ โทษเรื่องบาปบุญ โชคชะตา อยู่ที่น้ำท่วมต้องทำใจ โดยไม่สนใจผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เสียหายหนักทุกปี ปล่อยประชาชนจมน้ำทุกปี แต่ละปีท่วมครั้งละหลายเดือน นาข้าว พืชผลการเกษตรที่เสียหายจมน้ำ รัฐบาลจะเยียวยาให้ครอบคลุมอย่างไร ถ้าไปต่อไม่ไหว ก็เร่งประกาศให้ชัดหลังยุบสภาจะตัดสินใจวางมือทางการเมือง
“8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้เงินเกือบ 30 ล้านล้านบาท แต่ไม่มีนโยบายอะไรที่สำเร็จเป็นมรรคเป็นผล เศรษฐกิจวิกฤตหนัก หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรือ” นายอนุสรณ์ กล่าว