“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” ล้มเหลวในการบริหารประเทศ
“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” ทำปฏิวัติรัฐประหารแล้วรวบอำนาจ ทำให้การกระจายอำนาจล้มเหลว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรง
นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดมหาสารคาม และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 8 ปีประยุทธ์ การกระจายอำนาจล้มเหลว เศรษฐกิจย่าแย่
8 ปีในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ท่าให้ระบบการเมืองของไทยเสียหายในระยะยาว จากการรัฐประหารสู่การสืบทอดอ่านาจ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้สืบทอดอ่านาจต่อ หลังจากใช้อ่านาจปฏิวัติตั้งแต่ปี2557 แม้ว่าจะเป็นขบวนการทีไม่ชอบธรรม
ระบบการเมืองที่เสียหายในระยะยาว ด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญทีไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่ง ไม่มีที่ใดให้ สว.ที่ตัวเองแต่งตั้งเข้ามาโหวตเลือกให้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ยึดโยงประชาชน อีกทั้งการไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ การเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม มีการซื้อขายเสียงมากขึ้น ใช้อำนาจรัฐอำนาจเงินเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง การแทรกแซงองค์กรอิสระ ท่าให้ประเทศได้รัฐบาลที่ไม่มีความรู้ความสามารถ และไม่มีเสถียรภาพเข้ามาบริหาร ประเทศ จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาโควิด-19 อีกทั้งเอื้อพวกพ้องกลุ่มทุนที่สนับสนุน มีการทุจริตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชนในปัจจุบันที่ยากล่าบากกันมากที่สุด
ไม่สนับสนุนกระจายอ่านาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาที่สำคัญกลับถูกละเลย มีการรวบอ่านาจมากกว่าการกระจายอ่านาจ ไม่ให้ความเป็นอิสระและไม่ให้อำนาจในการตัดสินใจ และจัดสรร งบประมาณที่เพียงพอแก่ อปท.
7-8 ปีที่ ประชาชนเสียโอกาสจากการยื้อการเลือกตั้งท้องถิ่น ท่าให้ความเจริญและการพัฒนาท้องถิ่นต้องหยุดชะงัก เนื่องจากผู้บริหาร อปท.บางแห่งมาจากการแต่งตั้ง ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ กรุงเทพมหานครเสียโอกาสการ พัฒนา 8 ปี หลังจากมีการเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มาจากประชาชน ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ เข้ามา บริหารงานในกรุงเทพมหานคร เพียงเดือนกว่า แต่สามารถท่างานแก้ไขปัญหาต่างๆรวดเร็ว มีความใกล้ชิดกับประชาชน ทำงานทันต่อความต้องการของประชาชนได้ตรงเป้าหมาย รู้ถึงปัญหาและความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างดี นี่คือความ งดงามของการเมืองที่ยึดโยงประชาชน
ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องมีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริงเพื่อกระจายความเจริญอย่างมีประสิทธิภาพ อนุสรณ์ แนะ เพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ เร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจแก้วิกฤต
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวในการแถลงข่าวเรื่องผลกระทบของการเมืองต่อเศรษฐกิจไทย ว่า 8 ปีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำประเทศเจอวิกฤตเผชิญสารพัดปัจจัยเสี่ยงเข้ามาถาโถม โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูงทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี กระทบจากราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้มขึ้นราคา และกลุ่มอาหารเพิ่มสูงขึ้น 8ปี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ควานหาความสำเร็จแทบไม่เจอ แก้ทุกปัญหาด้วยสมช. ตั้งสมช.นำหมอแก้โควิด ตั้งสมช.นำสภาพัฒน์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบผิดฝาผิดตัว แถมยังลุกออกจากมุมมาออกแถลงการณ์ กลยุทธ์ 3 แกน ขอเวลาอีก 2 ปีจะทำคนไทยให้หายจน อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย 3 แกนคืออะไร ให้พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาอธิบายเองแบบไม่ต้องมีคนเขียนโพยให้ยังอาจทำลำบาก เพราะประชาชนดูออกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจ ใช้โพยนำความคิด ใช้ความมั่นคงนำทุกสิ่ง ในอดีตเคยบอก เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน ยังใช้เวลาถึง 8 ปี 3 แกนแก้จนจึงดูปลอม ไม่ต่างจาก 3 ป.ที่โรยลาเต็มที ไม่เหลือสภาพที่จะไปแก้ไขอะไรได้ การเมืองที่ล้มเหลวส่งผลการแก้เศรษฐกิจที่ล้มเหลวเวลาที่เหลืออยู่ต้องไปคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ เร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจแก้วิกฤต
“ไม่ไหวอย่าฝืน เวลาของ 3ป.หมดลงแล้วจริงๆ เวลาที่เหลืออยู่อย่าเพิ่งไปไกลถึง 3 แกน ไม่ต้องเน้นของใหม่ กลับมาเคลียร์นโยบายเก่าที่ยังทำไม่สำเร็จก่อน” นายอนุสรณ์ กล่าว