ชัชชาติ ชู ทางเท้าปลอดภัย 1,000 กม. ทั่วกรุงเทพฯ
ชัชชาติ ชูนโยบาย “เดินทางดี” ตั้งเป้าพัฒนาทางเท้าคุณภาพ “เดินได้ คงทน ปลอดภัย มีร่มเงา” ขั้นต่ำ 1,000 กม. ทั่วกรุงเทพฯ
วันที่ 25 เม.ย.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 หาเสียงตลาดสะพานสองและตลาดโชคชัย 4 เขตลาดพร้าว พร้อมสำรวจทางเท้าโดยรอบตลาดริมถนนลาดพร้าว ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ระหว่างเดินสำรวจพบปัญหาผิวทางเท้าขรุขระ แผ่นกระเบื้องไม่แน่น มีสิ่งปลูกสร้าง-ป้ายจราจรกีดขวาง คนแก่-คนพิการใช้งานไม่สะดวก สายสื่อสารไม่เป็นระเบียบ ทางม้าลายไม่ปลอดภัย และปัญหาความสะอาด โดยนายชัชชาติ ชูนโยบาย “เดินทางดี” พัฒนาทางเดินเท้าคุณภาพ 1,000 กิโลเมตร ที่ได้รับการดูแลคุณภาพ มาตรฐานการก่อสร้างและความร่มรื่น เพื่อให้ทางเท้าเป็นปัจจัยส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของทุกคน
นายชัชชาติ กล่าวว่า ทางเท้าเป็นปัญหาเรื้อรังของกรุงเทพฯ จากข้อมูลทีม “เพื่อนชัชชาติ” ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 พบการร้องเรียนเรื่องทางเท้ากว่า 150 จุด จึงมีนโยบายกรุงเทพฯ เดินได้ พัฒนาทางเดินเท้าคุณภาพ 1,000 กิโลเมตร ชัชชาติ ย้ำว่า เป้าหมาย 1,000 กิโลเมตร ถือว่าไม่เยอะและดำเนินการได้จริง ถ้าหากเฉลี่ยรายเขต 50 เขต แต่ละเขตจะพัฒนาขั้นต่ำเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งนี้ ต้องเลือกให้ความสำคัญจากทางเท้าที่มีการใช้งานหนาแน่นและได้รับการร้องเรียนบ่อยครั้งเป็นลำดับแรก และพัฒนาให้สอดคล้องกับแต่ละบริบทและการใช้งานของแต่ละพื้นที่
นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางเท้าที่มีคุณภาพต้องออกแบบให้คนทุกกลุ่มสามารถใช้งานได้ ผ่านมาตรฐานการก่อสร้างที่แข็งแรงคงทน ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างหรือซ่อมแซมไม่นานเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้ริมทางให้ร่มเงาจากการดูแลโดยรุกขกรมืออาชีพ บางจุดอาจก่อสร้างหลังคากันแดดกันฝน เพื่อส่งเสริมความสะดวกสบายในการเดิน ทั้งนี้ กทม. ต้องกำหนดแผนการพัฒนาแทางเท้าให้ชัดเจนพร้อมรายงานความก้าวหน้าให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นายชัชชาติ ย้ำว่า ทางเท้าเป็นปัจจัยส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของทุกคนในกรุงเทพฯ และการเดินบนทางเท้าคุณภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนเมือง
“การเดินเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนเมือง เช่นเดียวกับการเข้าถึงอากาศบริสุทธิ์ เรื่องทางเท้าต้องพัฒนาทั้งระบบ ฝุ่นน้อยลง มีร่มเงา มีต้นไม้ เมื่อทางเท้าดีสุดท้ายคนจะออกมาเดินมากขึ้น สุดท้ายก็จะมีผลดีกับเศรษฐกิจ จากนั้นเราก็จะควบคุมความปลอดภัยบนท้องถนน ปรับปรุงทางม้าลาย จำกัดความเร็วรถบนถนน ทุกอย่างต้องเชื่อมโยงกันทั้งระบบ ต้องทำเมืองให้คนใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัยมากขึ้น” นายชัชชาติ กล่าว