ปิติพงศ์ อัด รบ.ขยายเพดานหนี้สาธารณะ โยนบาปให้คนไทย
จากกรณีรัฐบาล ขยายเพดานหนี้สาธารณะ จากที่ไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ต่อ จีดีพี เป็น 70 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม แสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการโยนบาปให้ประชาชน สร้างภาระหนี้ประชาชน ทั้งๆที่ รัฐบาลบริหารผิดพลาด แบบนี้ ไม่เป็นธรรม
“จากการที่กระทรวงการคลังมีแผนในการขยับเพดานหนี้สาธารณะขึ้นชั่วคราวจาก 60% เป็น 70% มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับแผนในการกู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้าน อ้างเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ การดำเนินการของรัฐบาลกำลังสร้างภาระให้กับประเทศและประชาชนทั้งปัจจุบันและคนรุ่นใหม่ในอนาคต”
ดร.ปิติพงศ์ กล่าวว่า ทั้งๆที่เป็นการดำเนินนโยบายบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาล ส่งผลกะทบกับการทำมาหากินของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศเสียหาย รายได้ประเทศลดลง ตลอดจนกรมสรรพากรเก็บภาษีพลาดเป้าต่อปีสูงถึง 200,000-300,000 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ส่งผลกระทบกับแผนพัฒนาประเทศและการดูแลประชาชน
ดร.ปิติพงศ์ กล่าวว่า กรมสรรพกร ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ จัดเก็บภาษีทุกประเภทปรับขึ้นภาษีโรงเรือน ภาษีป้าย ร้านไหนขายดีส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจเข้ม จัดเก็บภาษีย้อนหลังหวังรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยรายได้ ของรัฐ แต่กลับลดภาษีนำเข้าสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ วิธีการดังกล่าวของรัฐบาลเป็นรีดเลือดจากปู รัฐบาลบริหารประเทศไม่เป็น หารายได้เข้าประเทศไม่ได้ การกู้เงินและเก็บภาษีจึงเป็นทางออกของรัฐบาล บริหารแบบโยนภาระให้ประชาชน จึงเป็นทางเลือกของรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบการ
ดร.ปิติพงศ์ ยังบอกด้วยว่า การอยู่ในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ ส่งผลให้ประเทศต้องตกอยู่สภาวะล้มเหลวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ ทำให้ประเทศหมดโอกาสในการพัฒนาในทุกมิติ