“พิชัย” สอนมวย “ประยุทธ์” 6 ข้อ แก้ไขเศรษฐกิจ
พิชัย นริพทะพันธุ์ แนะ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” 6 ข้อ แก้ไขเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หมดสภาพไม่สามารถแก้ไขได้แล้วก็ควรถอดใจออกไป รัฐบาลในอนาคตจะได้เข้ามาแก้ไขได้ โดยขอเสนอปัญหาเศรษฐกิจ 6 ข้อ และแนวทางแก้ไข ดังนี้
1.ปัญหาเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ามาก แนวทางการแก้ไข คือ ต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจในทุกด้าน ต้องคิดและทำหลายๆอย่างได้พร้อมกัน ถือโอกาสปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยโดยไม่ยึดติดวิธีคิดเดิมๆ เพื่อให้ไทยก้าวทันโลก หากจำกันได้ในปี 2554 ที่มีน้ำท่วมใหญ่ เศรษฐกิจไทยทรุดลงเหลือเพียง 0.1% เท่านั้น แต่อีกปีถัดมา เมื่อมีนโยบายหลายด้านออกมาพร้อมๆกัน เศรษฐกิจไทยในปี 2555 ขยายตัวได้ถึง 7.2% ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยทำได้และทำสำเร็จมาแล้ว
2. ปัญหาหนี้ที่เพิ่มขึ้นมาก แนวทางการแก้ไขของการแก้หนี้ก็คือการเพิ่มรายได้ ไม่ใช่เอาหนี้มาโป๊ะหนี้ เหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ คิดได้แค่จะเพิ่มโรงจำนำ การเพิ่มรายได้ต้องคิดทั้งรายได้ของประเทศที่รัฐบาลจะต้องคิดหาวิธีใหม่ๆ จะพึ่งแต่ภาษีแบบเดิมคงไม่ได้แล้ว เพราะเศรษฐกิจทรุดขนาดนี้ใครจะมีปัญญาจ่ายภาษี นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐจะต้องใช้เพื่อเพิ่มจีดีพีให้มากที่สุด และ รัฐบาลจะต้องกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน และต้องคิดการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ต้องส่งเสริมให้มีเศรษฐกิจไหม่ๆโดยเฉพาะเศรษฐกิจดิจิตอลที่เป็นของคนไทยเอง สร้างให้เกิดกิ๊กอิโคโนมีเพื่อเพิ่มการจ้างงาน นอกจากนี้รัฐต้องหาทางช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตอย่างรุนแรง ตัดหนี้ ลดดอกเบี้ย ลดเงินต้น ยืดการชำระเงิน เป็นต้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ และ ในอนาคตเงินช่วยเหลือนี้จะมีมูลค่าต่ำมากเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจไทยที่จะขยายในอนาคตเหมือนที่เกิดขึ้นในอดีตสมัยต้มยำกุ้ง ในอดีตพรรคไทยรักไทย คิดเรื่อง กองทุนหมู่บ้าน SME SML สร้างเศรษฐกิจคู่ขนาน(Dual Track Economy) พัฒนาทั้งเศรษฐกิจด้านบนและเศรษฐกิจฐานรากควบคู่กันไป เป็นต้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยจนฟื้นในที่สุด
3. ปัญหาการขาดดุลแฝด คือ การขาดดุลทางการคลัง และ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด รัฐบาลจะต้องกลับมาพิจารณาการใช้เงินเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่สุด จัดสรรงบประมาณและการใช้จ่ายใหม่ อะไรไม่จำเป็นและไม่ได้เพิ่มจีดีพีต้องตัดทิ้งทั้งหมด งบทางการทหาร และ งบซื้ออาวุธต้องตัดและพักไว้ก่อนจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้น การเร่งระดมฉีดวัคซีนคุณภาพให้กับประชาชนในพื้นที่การท่องเที่ยวทั้งหมดให้ได้ถึง 70-80% ของประชากร เพื่อเปิดแซนด์บ็อกซ์การท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทุกแห่ง เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กลับมา พร้อมกับการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวให้สวยงานและมีความสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะลดและแก้ปัญหาการขาดดุลแฝดลงได้
4.ปัญหาการลงทุนที่หดหายมาตลอด 7 ปี แนวทางการแก้ไข คงต้องเปลี่ยนรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจให้ออกไป เพื่อลบภาพรัฐบาลเผด็จการและการปฏิวัติออกไปให้หมด ถ้ายังเป็นรัฐบาลสืบทอดเผด็จการและยังมีผู้นำคนเดิม การสร้างความมั่นใจเพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนคงทำได้ยาก หรือ แทบจะทำไม่ได้เลย ขนาดนายสมคิดและ 4 กุมารพยายามวิ่งไปทุกประเทศแต่ไม่มีนักลงทุนสนใจมาลงทุน ล่าสุด KKP research (เกียรตินาคินภัทร) ยังระบุว่า ไทยไม่ใช่เป็นที่สนใจของต่างประเทศแล้ว ซึ่งยิ่งพลเอกประยุทธ์อยู่นานเท่าไหร่ ไทยก็จะยิ่งเสื่อม ลงมากขึ้น
5. ปัญหาเศรษฐกิจเรื้อรังที่จะเกิดจากวิกฤตไวรัสโควิดที่ยืดเยื้อ แนวทางแก้ไข คือ การที่รัฐบาลจะต้องทำให้ประชาชนอยู่ร่วมกับไวรัสโควิดได้โดยไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำพูด แต่ต้องมีหลักคิดในการปฏิบัติโดยต้องมีมาตรการที่เหมาะสมรองรับ โดยรัฐบาลต้องจัดหาวัตซีนที่มีคุณภาพเพื่อมาเร่งกระจายฉีดให้กับประชาชนให้ทั่วถึงโดยเร็ว ต้องสั่งจองวัคซีนคุณภาพที่คิดค้นขึ้นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงเช่น วัคซีน Novavax ที่ประเทศญี่ปุ่นจองแล้ว 150 ล้านโดส อีกทั้งต้องจองและจัดหายาป้องกันและยารักษาไวรัสโควิดที่คิดค้นใหม่ๆที่มีออกมาเรื่อยๆ เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่วมกับไวรัสได้จริง โดยไม่ต้องล็อกดาวน์ การเปิดๆปืดๆประเทศเหมือนที่ผ่านมา คล้ายกับโรคลักปิดลักเปิดจะยิ่งทำร้ายเศรษฐกิจไทยหนักยิ่งขึ้น
6.ปัญหารายได้ของประชาชนลดลงมาก ปัญหาการว่างงานพุ่งสูง ปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ ปัญหาเหล่านี้เกิดมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำมาเป็นเวลานาน แนวทางแก้ไข เมื่อรัฐบาลใหม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้ขยายตัวในระดับที่สูงขึ้นได้ ปัญหาเหล่านี้จะบรรเทาและจะหมดไป