“บิ๊กตู่” ขุด “จำนำข้าว” โต้ปม วัคซีน ช้า
ผมใช้หนี้ไปแล้วประมาณ 7.5 แสนล้าน มีภาระหนี้อีก 2.8 แสนล้าน ต้องทยอยใช้อีก 12 ปี ถึงจะหมดภาระ
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นโต้ฝ่ายค้านเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนล่าช้าว่า ทุกประเทศทั่วโลกต่างแย่งชิงวัคซีนกันทั้งสิ้น แต่โชคดีที่เราได้ทำสัญญาเอาไว้ก่อน ยืนยันว่าไม่มีปัญหาสำหรับงบประมาณการซื้อวัคซีน ส่วนการนำเข้าต้องผ่านมาตรฐานของ อย.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังจะหาวัคซีนยี่ห้ออื่นเข้ามาเสริม เช่น ชิโนฟาร์ม และวัคซีนยี่ห้ออื่นๆที่มาขึ้นทะเบียนกับเรา เช่น ไฟเซอร์ ที่กำลังจะเข้ามาในไตรมาส 3-4 วันนี้ยืนยันในขีดความสามารถของวัคซีนเรามีอยู่
“งบประมาณวัคซีนผมมีไม่จำกัด ที่ถามว่าหนี้สาธารณะมันเพิ่มขึ้นนั้น ผมถามว่าผมใช้หนี้จำนำข้าวไปเท่าไหร่แล้ว ที่หาว่ายอดหนี้ของผมสูง ผมใช้หนี้จำนำข้าวไป 1.5 แสนล้านบาทแล้ว ไม่อยากจะย้อนกลับ คือผมใช้หนี้ไปแล้วประมาณ 7.5 แสนล้าน มีภาระหนี้อีก 2.8 แสนล้าน ต้องทยอยใช้อีก 12 ปี ถึงจะหมดภาระ“
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ชี้แจง ขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ถึงงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขถูกปรับลดลง และอาจไม่เพียงพอ ว่า ยืนยันว่าเพียงพอ สำหรับปี 2564 ในส่วนของการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้มีการอนุมัติงบกลางทั้งสิ้นแล้ว 12,576 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณที่กระทรวงสาธารณสุข มีความมั่นใจว่าเพียงพอ ยืนยันความพร้อมในระบบสาธารณสุขของไทย และรัฐบาลนี้เท่านั้นที่กล้าให้คำยืนยันว่าพี่น้องประชาชนคนไทยหรือแม้กระทั่งคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้ หากติดโรคโควิด พวกเขาต้องถึงมือแพทย์ เข้าถึงยาทุกคน
นายอนุทิน ยืนยันว่า จะไม่มีคนใดที่จะต้องถูกเลือกให้อยู่ หรือไม่ได้รับการรักษาเหมือนประเทศอื่น จะไม่มีผู้ป่วยคนใดถูกทอดทิ้งเข้าไม่ถึงการรักษา ผู้ป่วยทุกคนต้องได้เข้าโรงพยาบาลตามเกณฑ์ของการป่วยอย่างเหมาะสม
“งบประมาณทั้งหมดได้ผ่านการอนุมัติโดยเร็วจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต้องขออภัยที่จะต้องแก้ต่างในการอภิปรายของสมาชิกจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งผมคิดว่าท่านมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่ทอดทิ้งเขาจะให้การดูแลประชาชนทุกคนที่อยู่ในประเทศนี้อย่างเต็มที่“