สภาผ่าน พรก.ซอฟต์โลน 64 วงเงิน 3.5 แสนล้าน
ผ่านเห็นชอบ พ.ร.ก.ซอฟต์โลน 64 วงเงิน 3.5 แสนล้าน แบงก์ชาติ ยัน ไม่ใช่หนี้สาธารณะ
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา พ.ร.ก.เยียวยาผลกระทบโควิด-19 กำหนดมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และมาตรการพักทรัพย์พักชำระหนี้ ช่วยผู้ประกอบการ ประคองธุรกิจ-จ้างงาน รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ พ.ร.ก.ซอฟต์โลน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงสาระสำคัญของ พ.ร.ก. ดังกล่าว ที่จำเป็นต้องตราขึ้น เป็นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 2 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจหรือสินเชื่อฟื้นฟู และ มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้หรือเรียกว่ามาตรการพักทรัพย์พักชำระหนี้
โดยมีวงเงินให้ความช่วยเหลือรวม 3 แสน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีรายละเอียดของมาตรการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู เช่น การให้กู้ยืมแก่ผู้ประกอบธุรกิจสถาบันการเงินต้องคิดอัตราดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา 2 ปีแรกของสัญญาได้ไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี โดยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญาตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี รวมถึงให้รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยแทนผู้ประกอบธุรกิจในช่วง 6 เดือนแรกของสัญญาเพื่อลดภาระผู้ประกอบธุรกิจ โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าวให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อชดเชยให้สถาบันการเงินต่อไป เป็นต้น
นอกจากนี้ พ.ร.ก. ฟื้นฟูเยียวยาผู้ประกอบการฯ ฉบับนี้ ยังตราขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ให้มากขึ้นและมีความยืดหยุ่น ซึ่ง พ.ร ก.ฉบับนี้ จะช่วยให้ภาครัฐสามารถปรับปรุงเงื่อนไขการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างทันการณ์ เหมาะสมและเพียงพอกับสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่การระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง เช่น ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินสามารถขอสินเชื่อได้ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถประคับประคองธุรกิจและการรักษาการจ้างงาน รวมทั้งปรับปรุงธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจได้อย่างทันการณ์
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าเงินจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท จาก พ.ร.ก.ฟื้นฟูฯ ฉบับนี้ ไม่ได้เป็นการกู้เงินของรัฐบาล และไม่ได้เป็นหนี้สาธารณะ แต่เป็น พ.ร.ก.ที่ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นการชั่วคราวให้สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องในระบบการเงิน และระบบเศรษฐกิจ ให้สามารถกระจายเงินไปยังผู้ที่ต้องการได้ตรงจุดมากขึ้น
ที่ประชุมมีมติเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 ด้วยคะแนนเสียง 331 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง58 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียงไม่มี