ขยายมาตรการจูงใจนักลงทุน ชายแดนใต้ อีก 3 ปี
ครม.อนุมัติขยายมาตรการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีก 3ปี จูงใจผู้ประกอบการลงทุนในพื้นที่
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ว่า ครม. เห็นชอบขยายเวลามาตรการสำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 จากเดิมที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2563 เพื่อจูงใจผู้ประกอบการกิจการและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ อันจะเป็นการสร้างรายได้และอาชีพที่มั่นคงให้แก่ประชาชน ซึ่งพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสตูล และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา คือ อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอเทพา สำหรับมาตรการที่ขยายเวลาออกไปอีก 3 ปี ประกอบด้วย 3 ด้านคือ
1.มาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียม
1.1มาตรการทางภาษี ประกอบด้วย (1) ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เหลือร้อยละ 0.1 ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือร้อยละ 3 ลดภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย และภาษีธุรกิจเฉพาะ(จากการขายอสังหาริมทรัพย์) เหลือร้อยละ 0.1 (2)ให้ผู้เสียภาษีเงินได้ หักค่าใช้จ่ายค่าซื้อและค่าติดตั้งระบบกล้อง CCTV ได้เป็น 2 เท่า (3) ให้นิติบุคคล หักรายจ่ายจากการลงทุนเกี่ยวกับกิจการโดยทำให้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่การซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม เป็นจำนวน 2 เท่า (4)ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 รอบบัญชี สำหรับกำไรสุทธิของนิติบุคคลรายใหม่ (New Start-up) (5)ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้มีความสามารถสูง ที่เข้าไปทำงานในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ เหลือร้อยละ 3 ของเงินได้ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวจะต้องยกร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษียกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ….รวม 5 ฉบับ ก่อนดำเนินมาตรการดังกล่าว
1.2 ลดค่าธรรมเนียม โดยลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายที่ดินในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ เหลือร้อยละ 0.01 และลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ เหลือร้อยละ 0.01 ซึ่งกระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการออกประกาศกระทรวงมหาดไทยรวม 2 ฉบับ
2.มาตรการด้านการเงิน
ได้แก่ (1)มาตรการพักชำระหนี้ของ ธ.ก.ส. โดยให้ลูกค้าที่เคยเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้และยังมีหนี้คงเหลือ ไม่ต้องชำระเงินต้น และรัฐบาลจะเป็นผู้ชำระดอกเบี้ยแทน ในส่วนเงินต้นที่ไม่เกิน 200,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี (2)มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. โดยขยายวงเงินเป็น 8,000 ล้านบาท และขยายระยะเวลาดำเนินโครงการออกไปอีก 2 ปี จากเดิมที่สิ้นสุด 30 ธ.ค. 2563 เป็น 30 ธ.ค. 2565 โดย ธอส. ไม่ขอรับการชดเชยจากรัฐบาล
3.มาตรการด้านประกันภัย
ได้แก่ (1)โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยก่อการร้ายในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยภาครัฐจะชดเชยส่วนต่างค่าเบี้ยประกันภัยให้ผู้ประกอบกิจการ สำหรับการประกันภัยทรัพย์สินคุ้มครองภัยการก่อการร้าย และประกันอุบัติเหตุของพนักงาน (2)โครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยภาครัฐจะชดเชยค่าเบี้ยประกันภัย สำหรับการประกันอัคคีภัย การประกันภัยความเสี่ยงทรัพย์สิน และการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักให้ผู้ประกอบการทั้งนี้ ครม.เห็นชอบให้จัดสรรงบกลาง ปี 2564 จำนวน 50 ล้าน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชดเชยค่าเบี้ยกันภัยดังกล่าวด้วย
น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งเป้าที่การพัฒนาพื้นที่ให้เกิดความเจริญ ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยไม่ใช้วิธีการรุนแรงเข้าแก้ปัญหา ซึ่งโครงการพัฒนาต่างๆ ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน จะนำไปสู่ความสงบสุขและการพัฒนาที่อย่างยั่งยืนต่อไป