“คลัง”ประชุมหมอประชารัฐนัดแรก
ปลัดคลังประชุมผ่าน VDO ทางไกลหมอประชารัฐทั่วประเทศ 1.8 แสนคน เพื่อย้ำการฝึกอาชีพ ติดตามคืบหน้า โชว์ยอดใช้จ่ายบัตรสวัสดิการผ่านร้านธงฟ้าพุ่ง 2.1 ล้านรายการสูงสุดตั้งแต่เริ่มโครงการ ขณะที่ออมสินพร้อมบุกรายย่อยทุกประตูบ้าน นำมาฝึกอาชีพเติมเต็มความรู้
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า “วันนี้ (2 เม.ย.) กระทรวงการคลังได้จัดประชุมทางวีดิโอผ่านจอภาพ (Video conference) กับผู้ดูแลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Account Officer : AO) หรือ หมอประชารัฐสุขใจ 180,000 คนทั่วประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายกระทรวง เพื่อต้องการให้จ้าหน้าที่เข้าไปดูแลผู้มีรายได้น้อย ตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2 “ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้เปิดให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนเพิ่มเติมเพื่อรับสวัสดิการในระยะที่ 2 เช่น การฝึกอบเพื่อประกอบการอาชีพ การเพิ่มเงินสวัสดิการกรณีที่มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินเพิ่มอีก 200 บาท จากเดิม 300 บาท เป็น 500 บาทต่อเดือน และกระทรวงแรงงานเตรียมตำแหน่งงานทั่วประเทศ 100,000 ตำแหน่ง ทำงานต่างประเทศ 7,000 ตำแหน่ง เป็นต้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมฝีกอาชีพ ให้ความรู้ทุกด้าน โดยเฉพาะไชส์แฟรนไชส์ที่ซื้อขายต่อธุรกิจ 10,000-50,000 บาท เป็นแบรนด์ราคาไม่สูงมากเหมาะสำหรับผู้จะเริ่มต้นธุรกิจแต่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เช่น แบรนด์พิซซ่าอาหม่วย, แหม่ม ซาลาเปาลาวา, โจ๊กแต้จิ๋ว, กิมซุนหมูปิ้ง และการอบรมช่างประจำหมู่บ้าน หากต้องการเงินทุนประกอบอาชีพธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. พร้อมให้สินเชื่อเติมทุน 50,000 บาทต่อราย ไม่คิดดอกเบี้ยในปีแรก กรมชลประทาน มีการจ้างงานแรงงานขุดลอกคลอง ฝายน้ำล้น เมื่อฝึกอบรมได้ระยะหนึ่งแล้ว หมอประชารัฐสุขต้องติดตามลงพื้นที่ตลอดเวลา ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร เมื่อเริ่มมีเงินออม สามารถสมัครเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อออมเงินใช้ในวัยเกษียณ และสมัครประกันภัย 200 บาท
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผู้มีรายได้น้อยต้องการที่อยู่อาศัยนั้น กรมธนารักษ์และการเคหะแห่งชาติ จะเข้าไปดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง เพื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนกรณีผู้มีรายได้น้อยต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ไม่ยอมลงทะเบียนฝึกอบรมเฟส 2 ประมาณ 20-30% จากยอดลงทะเบียน 4.6 ล้านคน จะต้องส่งข้อมูลมายังส่วนกลางที่กระทรวงคลัง เพื่อที่กระทรวงการคลังจะโทรไปสอบถามและย้ำอีกครั้งว่า ผู้เข้าร่วมโคงการจะได้รับประโยชน์และสวัสดิการอะไรบ้าง จากการฝึกอบรมด้านต่างๆ เพื่อไม่ ให้เสียสิทธิ์ด้านต่างๆ ที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือ
รัฐบาลต้องการติดตามเรื่องนี้ อย่างใกล้ชิด เมื่อฝึกอบรมให้กับผู้ลงทะเบียนและเริ่มจ่ายเงินเข้าบัตรเพิ่มเติมอีก 100 บาท กรณีที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี และอีก 200 สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ทำให้ยอดจำนวนการใช้บัตรสวัสดิการในวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งเป็นเดือนแรกของโครงการเฟส 2 โดยมียอดใช้จ่ายบัตรร้านธงฟ้าประชารัฐสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 2.1 ล้านรายการ จำนวนเงิน 768 ล้านบาท รถโดยสาร บขส. 1,615 ราย เป็นเงิน 625,435 บาท ค่าโดยสารรถไฟ 9,009 ราย เป็นเงิน 1.26 ล้านบาท ซื้อก๊าซหุงต้น 10,717 ราย เป็นเงิน 481,319 บาท รวมใช้เงินประมาณ 770 ล้านบาท สำหรับร้านค้าที่กลัวว่า ยอดขายจะเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความเข้าใจว่าจะมีเรื่องภาษีการค้ามีค่าลดหย่อนอีกหลายรายการ เพื่อให้ร้านค้าขนาดเล็กค้าขายต่อไปได้ไม่ต้องกังวล
นายชาติ ชายพยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ออมสินและหมอประชารัฐลงพื้นที่ประมาณ 3,000 คน ขณะนี้ได้ทั้งส่ง SMS (ข้อความสั้น) โทรไปสอบถาม เพื่อให้มาอบรมอาชีพเสริม โดยภายในสิ้นเดือนเม.ย.ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ในส่วนของออมสินได้จับมือกับมหาวิทยาลัย 30-40 แห่งทั่วประเทศจัดทำโครงการมหาวิทยาลัยประชาชน ร่วมฝึกอบรมให้ความรู้กับชาวบ้าน.