คปภ.สั่งเร่งช่วยเหลือเหยื่ออุบัติเหตุที่เชียงใหม่
เลขาฯคปภ. สั่งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือด้านประกันภัย ปม นายกเทศมนตรีเมืองปทุมฯและครอบครัวเสียชีวิตรวม 5 ราย จากอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำที่เชียงใหม่ เบื้องต้นพบทำประกันภัยกับ “ทิพยประกันภัย – มั่นคงประกันภัย” พร้อมประสาน 2 สมาคมประกันฯ ตรวจสอบประกันภัยอื่นๆ เพิ่มเติม
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า ได้สั่งการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร บูรณาการการทำงาน ร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดย สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) และ สำนักงาน คปภ. จ.เชียงใหม่ เร่งติดตามและตรวจสอบการจัดทำประกันภัยของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ฆฐ 3307 กรุงเทพมหานคร ที่เสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณทางโค้งกิโลเมตรที่ 31 จอมทอง-ดอยอินทนนท์ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้น มี นายสมพงษ์ ศรีอนันท์ นายกเทศมนตรี ต.หลักหก จ.ปทุมธานี
เบื้องต้นได้รับรายงานว่า รถยนต์คันนี้ ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย และประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับ บมจ.มั่นคงประกันภัย คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย ของบุคคลภายนอก 1,000,000 บาท/คน ไม่เกิน 10,000,000 บาท/ครั้ง ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 5,000,000 บาท คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ 370,000 บาท คุ้มครองสูญหาย/ไฟไหม้ 370,000 บาท คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรณีสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร (ผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร 6 คน) 200,000 บาท/คน ค่ารักษาพยาบาล 200,000 บาท/คน ประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาท
จากอุบัติเหตุครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 5 ราย แยกเป็นผู้โดยสาร (บุคคลภายนอก) 3 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 1.7 ล้านบาท จาก พ.ร.บ. 500,000 บาท กรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก) โดย บมจ. สินมั่นคงประกันภัย พิจารณาจ่ายตามฐานานุรูปเต็มตามความคุ้มครอง 1 ล้าน บาท และสัญญาแนบท้ายประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 200,000 บาท
สำหรับผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ขับขี่ คือ นายสมพงษ์ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจำนวน 235,000 บาท จาก พ.ร.บ 35,000 บาท และ PA 200,000 บาท ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้โดยสารอีก 1 ราย ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ขับขี่รถยนต์ จะได้รับค่าสินไหมทดแทน 700,000 บาท จาก พ.ร.บ. 500,000 บาท และ PA อีก 200,000 บาท
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะประสานและบูรณาการการทำงานไปยังสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ มีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ อีกหรือไม่ และหากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้เสียชีวิตมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของการติดตามและการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) ได้ประสานงานกับสำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี)
ซึ่งกำกับดูแลสำนักงาน คปภ. จ.ปทุมธานี เพื่ออำนวยความสะดวกและติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทของผู้ประสบภัย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เพื่อให้ระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้โดยเร็ว
“ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอแสดงความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชนควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสีย และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุประกันภัย พ.ร.บ. ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและกรมธรรม์ประกันชีวิตอื่นๆ เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เลขาธิการ คปภ. กล่าว
ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186.