กรมศุลฯจับบุหรี่ล็อตใหญ่ – ตั้งฉก.รุกเหล้า-บุหรี่เถื่อนช่วงปีใหม่
กรมศุลฯจับบุหรี่ละเมิดลิขสิทธิ์ล็อตใหญ่ 10.4 ล้านมวน พร้อมคดียาเสพติดและสินค้าเกษตรลักลอบนำเข้าไทยอีกเพียบ เผย! ผุดแผนตั้งทีม ฉก.ตรวจจับเข้ม “เหล้า-บุหรี่” ช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่
“โฆษกกรมศุลกากร” นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร แถลงผลการจับกุม บุหรี่ละเมิดเครื่องหมายการค้าจำนวน 1,040 กล่อง ถือเป็นการสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยง ข้อห้าม ข้อกำกัดอันเป็นความผิดตามมาตรา 202, 244 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2559 พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 พ.ร.บ.การส่งออกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.65 ล้านบาท
“ถือเป็นล็อตใหญ่ที่สุดอีกล็อตหนึ่งที่จับกุมได้ สำหรับคดีบุหรี่ ซึ่งหากนับเป็นจำนวนมวนแล้ว มีรวมกันมากถึง 10.4 ล้านมวน โดยคดีนี้ ทางกรมฯได้รับการชี้เบาะแสจากตัวแทนเจ้าของสิทธิบัตร จนนำไปสู่การตรวจสอบสินค้าในเขตปลอดอากรแห่งหนึ่ง (ขอไม่ระบุสถานที่) กระทั่ง จับกุม และยึดบุหรี่จำนวนดังกล่าวมาเป็นของกลาง เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป” โฆษกกรมศุลกากร ระบุ
สำหรับสถิติการจับกุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเดือน ต.ค. 2563 พบว่า มีคดีที่เกี่ยวกับบุหรี่ 44 คดี มูลค่า 4.03 ล้านบาท รวมถึงคดีที่เกี่ยวกับบารากู่, บารากู่ไฟฟ้า, บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ อีก12 คดี มูลค่ 1.78 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อของกลางบุหรี่และอื่นๆ ที่กรมฯยึดอายัดเอาไว้มีจำนวนมาก หากไม่ดำเนินการทำลายทิ้งเอง ก็จะนำไปสมทบกับบุหรี่ละเมิดลิขสิทธิที่กระทรวงพาณิชย์จับกุมมาได้ เพื่อร่วมกันทำลายทิ้งต่อไป
อีกทั้ง กรมฯยังจับกุมยาเสพติดให้โทษประเภท Ecstasy (ยาอีและยาเลิฟ) จำนวน 2,570 เม็ด โดยทำการตรวจสอบพัสดุต้องสงสัยจากต่างประเทศ จากนั้นหน่วย Airport Interdiction Task Force: AITF (ศุลกากร ป.ป.ส. บช.ปส. และ ศรภ.) ได้ขยายผล กระทั่งจับกุมหญิงไทย 2 คน ที่มารับของและทราบว่าได้ถูกว่าจ้างให้เป็นผู้รับของเพื่อส่งต่อไปยังผู้สั่งของที่แท้จริง ซึ่งผลการตรวจค้น พบ Ecstasy เพิ่มเติมอีก 2,880 เม็ด รวมเป็น 5,450 เม็ด มูลค่าประมาณ 5.4 ล้านบาท โดยยังไม่สามารถขยายผลไปยังผู้บงการได้ ทั้งนี้ สถิติการตรวจยึดยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในเดือน ต.ค. พบมีจำนวน 19 คดี มูลค่ากว่า 71.73 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล จ.สุรินทร์ ตรวจค้นและจับกุมการลักลอบขนเม็ดมะม่วงหิมพานต์โดยไม่พบเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากร บริเวณ ถ.โชคชัย-เดชอุดม ต.สังขะ อ.สังขะ จ. สุรินทร์ ซึ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ 160 กระสอบ น้ำหนักรวม 4,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 600,000 บาท รวมถึงจับกุมกระเทียมและหอมใหญ่ลักลอบหนีภาษีอีก 15 กระสอบ และ 20 กระสอบตามลำดับ น้ำหนักรวม 350 กิโลกรัม จากโกดังร้างไม่มีเลขที่ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มูลค่า 6,800 บาท โดยมีสถิติการตรวจยึดสินค้าเกษตรในเดือนตุลาคม 2563 มีจำนวนคดี ทั้งสิ้น 32 คดี มูลค่ากว่า 2.52 ล้านบาท
“ผลจากนโยบายเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรของ อธิบดีกรมศุลกากร เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้เดือน ต.ค.นี้ กรมฯจับกุมการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากร หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากร รวม 1,840 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 164.07 ล้านบาท” โฆษกกรมศุลกากร ย้ำและว่า
ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.2563) โดยเฉพาะ ช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีใหม่ต้อนรับปีเก่า กรมฯได้จัดตั้ง “ทีมเฉพาะกิจ” ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ เพื่อดำเนินการเชิงรุกในการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าสินค้าในกลุ่มสุรา บุหรี่ ยาเสพติด และอื่นๆ รวมถึงสินค้าทางการเกษตร เนื่องจากสถิติย้อนหลังในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพบว่าช่วงเวลานี้ มีการลักลอบนำเข้าสินค้าเหล่านี้ โดยเฉพาะ สุราและบุหรี่ มากเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาของการจัดกิจกรรมรื่นเริงประจำปี จึงต้องเร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามในช่วงเวลาดังกล่าว.