กรมศุลฯ ปลดล็อกรถยนต์หรู
อธิบดีศุลกากร ไฟเขียวให้ผู้นำเข้ายนต์สามารถนำเข้ารถยนต์ได้ตามประกาศอธิบดีกรมศุลกากรฉบับที่ 317 ซึ่งจะทำให้รถยนต์หรู 958 คันที่ตกค้างท่าเรือนานกว่า 3 เดือน สามารถนำเข้าในประเทศได้ ยกเว้นรถยนต์ 4 ยี่ห้อต้องสำแดงราคาสูงกว่าราคาที่กรมศุลกากรมีอยู่ในมือ
“เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2561 ผมได้ลงนามประกาศเงื่อนไขในการปรับปรุงประกาศกรมศุลกากรฉบับที่ 317 เรื่องการคำนวณอัตราภาษีรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้ทุกอย่างกับคืนสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ตนในฐานะอธิบดีได้ใช้อำนาจสั่งรระงับการใช้ประกาศดังกล่าวมานานถึง 3 เดือน ทำให้รถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบับและท่าเรืออื่นๆ รวมแล้ว 958 คัน ซึ่งการปรับปรุงประกาศศุลกากรฉบับ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2561 เพื่อปลดล็อกการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป (CKD) จากต่างประเทศที่ประกอบการร้องเรียน”
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า สาเหตุที่กรมศุลกากรระงับการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะรถยนต์หรู และรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ยึดรถยนต์หรูนำเข้าจากต่างประเทศเนื่อง จากเป็นรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากอังกฤษ 40-50 คัน จากจำนวนที่ระบุว่า อาจจะถูกโจรกรรมทั้งหมด 160 คัน โดยดีเอสไอได้ประสานขอข้อมูลกับศาลยุติธรรมของประเทศอังกฤษ ทำให้ดีเอสไอมีข้อมูลของราคารถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศอังกฤษในช่วงปี2556 ดังนั้น กรมศุลกากรจะนำราคารถยนต์ที่ศาลอังกฤษมอบให้ดีเอสไอมาเป็นหลักฐานสำคัญในการรับราคารถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ ประกาศฉบับที่ 317 กรมศุลกากรได้บังคับใช้มาแล้ว 13 ปี โดยประกาศฉบับนี้ถือเป็นคู่มือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรใช้ปฏิบัติเพื่อพิจารณาภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ แต่ในช่วงนั้นต้องถือว่า ระบบการสอบทานข้อมูลจากเว็บไซต์รถ ยนต์ในต่างประเทศทำได้ยากและไม่แพร่หลายเหมือนในปัจจุบัน จึงทำให้มีการแจ้งราคานำเข้ารถยนต์ต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรเองก็ยึดหลัก หากมีการนำเข้ารถยนต์รุ่นนี้แล้ว 1 คันจะมีการนำเข้าอีก 5 คัน หรือ 1,000 คันก็ใช้ราคาเดียวกันหมด ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว แม้จะเป็นรถยนต์รุ่นเดียวกันก็จริง แต่ภายในอาจมีอุปกรณ์ตกแต่งและอุปกรณ์เสริมไม่เหมือนกัน ก็จะทำให้รถยนต์มีราคาที่แตกต่างกันไปด้วย
นายกุลิศ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.เป็นต้น เจ้าหน้าที่ที่ประเมินราคารถยนต์ต้องพิจารณาตรวจสอบราคารถยนต์ทุกคัน โดยทำงานร่วมกับคณะกรรมการกลางของสำนักงานศุลกากรส่วนกลาง เพื่อให้ราคาที่ผู้ประกอบการสำแดงมีความถูก ต้องและสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด นอกจากนี้ ผู้นำเข้าต้องทำหนังสือเป็นรายลักษณ์อักษร และต้องแจ้งราคานำเข้ารถยนต์ทุกคัน เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากตรวจสอบภายหลังพบว่า มีการแจ้งราคาไม่ถูกต้องก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายของศุลกากรต่อไป
ส่วนรถยนต์ที่ติดค้างท่าเรือ 985 นั้น ในจำนวนนี้ มีรถยนต์ 4 ยี่ห้อคือ เฟอร์รารี่ ลัมโบกินี่ มาเซราติ และปอร์เซ่ ประมาณ 300 คัน ซึ่งกรมศุลกากรได้รับราคารถยนต์จากดีเอสไอซึ่งเป็นราคารถยนต์เมื่อปี2556 หากมีการนำเข้ารถยนต์ทั้ง 4 ยี่ห้อนี้ จะต้องสำแดงราคาสูงกว่ารถยนต์ปี2556 เนื่องจากระยะเวลาผ่านพ้นไป ราคารถยนต์มีแต่ราคาแพงขึ้น ตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น แต่หากมีการสำแดงราคายนต์ต่ำกว่าปี2556 กรมศุลกากรจะไม่รับราคาดังกล่าว ส่วนรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะเป็นรถยนต์ตลาดและราคาตรวจสอบได้ง่าย.