สรุปข่าว 14-11-63
หุ้นโลกดีดแรง : ตลาดหุ้นสำคัญของโลก ปิดตลาดเมื่อ 13 ต.ค.63 (ตรงกับเช้า 14 ต.ค.ในไทย) ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 399.64 จุด (1.37%) ปิดที่ 29,479.81 จุด, เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 48.14 จุด 1.36%) ปิดที่ 3,585.15 จุด ขณะที่ แนสแดคเพิ่มขึ้น 119.70 จุด (1.02%) ปิดที่ 11,829.28 จุด สวนทางกับ นิเคอิ ที่ปรับตัวลดลง 135.01 จุด (-0.53%) ปิดที่ 22,977.13 จุด ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดทำการซื้อขายที่ 1,346.47 จุด เพิ่มขึ้น 10.16 จุด (0.76%) มูลค่าการซื้อขาย 92,036.21 ล้านบาท
น้ำมันไทยขึ้นสวนโลก : ราคาน้ำมันโลก ปิดตลาดเมื่อเวลา 03.59 น.ของวันที่ 14 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย โดยสัญญาซื้อข่ายล่วงหน้า น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส เดือน ธ.ค. ลดลง 1.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-2.43%) ปิดที่ 40.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เดือน ม.ค.ปีหน้า ปรับลดลง0.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.91%) โดยราคาปิดอยู่ที่ 42.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล. ขณะที่ ภาพรวมราคาน้ำมันในไทยวานนี้ (13 พ.ย.) ทั้ง ปตท.และบางจาก ปรับราคาเพิ่มขึ้น 40 ส.ต./ลิตร.
ทองไทยคงที่ : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อ 13 พ.ย. ตรงกับเวลา 05.00 น. 14 พ.ย.ในไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.38 ดอลลาร์ (0.66%) ปิดที่ 1,889.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในไทย สมาคมค้าทองคำประกาศเปลี่ยนแปลงราคาทองคำตลอดวัน 3 ครั้ง โดยมีราคาเปิด (09.31 น.) เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อน 100 บาท จากนั้น ราคาปรับลดลงตลอดวัน จนราคาปิดสุดท้าย (16.33 น.) อยู่ในระดับเดียวกับราคาวานนี้ (12 พ.ย.) โดยไม่เพิ่มหรือลดลงแต่อย่างใด ซึ่งราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 26,750 บาท ขาย 26,850 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 26,272.28 บาท ขาย 27,350 บาท.
บาทแข็งค่า : ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเมื่อ 13 พ.ย. ไว้ที่ 30.248 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 30.271 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถั่วเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 30.3851 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 40.0992 บาทต่อ 1 ปอนด์สเตอริง, 36.0332 บาทต่อ 1 ยูโรดอลลาร์, 29.1730 บาท ต่อ 100 เยน, 3.9356 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง, 22.6816 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.4212 บาทต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย.
แม่น้ำโขงกับเกาหลี : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี (ใต้) ครั้งที่ 2 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้นำอาเซียน 10 ประเทศ และ ปธน.มุน แช-อิน เข้าร่วมด้วย ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล ระบุ นายกฯเวียดนามในฐานะ ปธ.การประชุม ย้ำว่าความร่วมมือ Mekong-ROK มีความก้าวหน้าไปมาก มีปฏิญญาแม่โขง-แม่น้ำฮัน และยกระดับสู่การประชุมสุดยอด เพื่อส่งเสริมความยืดหยุ่น และการพัฒนาอย่างยั่งยืน สะท้อนผลสำเร็จของการขยายความร่วมมือนี้ รวมทั้ง ต่อยอดไปถึงความร่วมมือในอนาคตด้วย.
บันได 3 ขั้น : คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า วิกฤติการเมืองหนนี้ถูกผูกด้วยเงื่อนปมหลายชั้นหลายปัญหา หากไม่เร่งสางปมอาจสายเกินการณ์ พร้อมเสนอ “บันได 3 ขั้น สู่ทางออกประเทศไทย” ที่ทำได้ทันที คือ 1. ตั้ง “คกก.แสวงหาทางออกประเทศไทย” โดยมี กม.รองรับ 2.แก้ไข รธน.เร่งด่วน นำไปสู่ฉบับประชาชน และ 3. นายกฯต้องลาออกหลังสภาฯผ่านร่างแก้ไข รธน. ต้น ธ.ค.นี้ เปิดทางให้สภาฯเลือกนายกฯคนใหม่ โดยรัฐบาลใหม่ ต้องหนุนให้เกิด “รธน.ฉบับประชาชน” ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน แล้วคืนอำนาจให้ประชาชน “เลือกตั้งใหม่” ไม่เกินปลายปี 64.
พิสูจน์สมรู้ร่วมคิด : นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รอง หน.พท. ระบุถึงการประชุมรัฐสภา 17-18 พ.ย.นี้ ว่า จะถือเป็นบทพิสูจน์และทดสอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความจริงใจในการแก้ไข รธน. เพราะ 7 ปีของการอยู่ในอำนาจ ประชาชนเคลือบแคลงกังขาต่อความจริงใจในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับตั้งคำถามทฤษฎีสมคบคิด ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ม็อบ กปปส.ชัตดาวน์ประเทศ มีการสมคบคิดกันในเครือข่ายแม่น้ำ 5 สาย เฉพาะกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลแถลงเป็นนโยบายเร่งด่วนข้อที่ 12 ต่อรัฐสภา ผ่านมา 2 ปี ยังไม่มีความคืบหน้า.
ช่วยแก้เศรษฐกิจ : นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล แถลงว่า รัฐบาลเชิญชวนประชาชนที่เห็นต่าง ช่วยเสนอความเห็นและแนวคิดที่เป็นประโยชน์ในเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่ความเห็นต่างทางการเมือง เพื่อให้ประเทศผ่านวิกฤติหลังการแพร่ระบาดของ โควิด -19 และย้ำว่า อยากให้พูดคุยเพื่อก้าวข้ามผ่านวิกฤติด้วยการเจรจาหาทางออก ขอให้ผู้ชุมนุมความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะกระทบกับเศรษฐกิจ และประชาชนจำนวนมากที่เขาพยายามประคองครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤติช่วงนี้ไป.
ส่องป้ายราคาสินค้า : นางมัลลิกา บุญมีตระกูลมหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เผย ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน เร่งติดตามและตรวจสอบการติดป้ายราคาในโครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน Lot7 ตามนโยบายของรองนายกฯและรมว.พาณิชย์ หลังจาก ก.พาณิชย์ ร่วมมือกับผู้ประกอบการทุกภาคส่วน นำลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงสุด 70% จำนวน 137,90 รายการระหว่างวันที่ 1- 30 พ.ย. เพื่อบรรเทาค่าครองชีพช่วงสถานการณ์โควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะการติดป้ายราคาตามห้างสรรพสินค้าร้านค้าปลีกค้าส่ง ห้างท้องถิ่นที่ประกาศร่วมโครงการไปแล้ว ต้องลดราคาและแสดงป้ายลดราคาอย่างชัดเจนให้ประชาชนสังเกตได้ตรวจสอบราคาได้.
พบใหม่ 9 คนติดโควิดฯ : ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ในนั้นมี หญิงไทย วัย 56 ปี เดินทางจากฟิลิปปินส์ และอีกคนเป็นภรรยาชาวสวิตเซอร์แลนด์ นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,861 ราย หายป่วยเพิ่ม 4 ราย ยอดรวมผู้รักษาหายป่วย 3,697 ราย รักษาในโรงพยาบาล 104 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก พบยอดผู้ติดเชื้อรวม 53,082,241 ราย รักษาหายแล้ว 37,208,275 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 1,299,220 ราย.
รวม ร.ร.ทั่วไทย : นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. ย้ำหลังประชุม กพฐ.ถึงแนวคิด วิธีการและขั้นตอนปฏิบัติในการควบรวมโรงเรียน เพื่อยกระดับการศึกษาของแต่ละจังหวัด โดยมีโมเดลของ จ.ภูเก็ตและสมุทรสงครามที่นำร่องไปก่อนแล้ว โดย สพฐ.จะรับไปดำเนินการครบทุกจงหวัดในปี 65 ซึ่งจะเปิดรับฟังความเห็นเพราะแต่ละจังหวัดมีบริบทไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ ไม่เพียงใช้งบประมาณด้านการศึกษาอย่างคุ้มค่า แต่ยังตอบโจทย์ด้านที่อยู่อาศัยของครู และแนวทางการใช้สถานที่เพื่อผู้สูงอายุ โดย ศธ.จะเป็นแม่งานหลักประสานกับส่วนราชการอื่นๆ ต่อไป.
จับพนันออนไลน์ : นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส ระบุถึงการจับกุมและปิดเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ช่วง ก.ค.- ต.ค.63 ได้ถึง 1,457 URLs มีผู้ต้องหาในเครือข่ายรายใหญ่ 140 คน เงินหมุนเวียน 21,735 ล้านบาท โดย ตร.ได้ส่งผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว และยังคงเร่งดำเนินการปราบปรามเว็บพนันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 ,12 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 อย่างเคร่งครัด.