“ดอน”คอนเฟิร์ม “ยิ่งลักษณ์” หนีไปอยู่อังกฤษ
ชัดเจนแล้วว่า อดีตนายกฯ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หนีการพิพากษาคดีรับจำนำข้าวไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
นับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2560 ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในโครงการรับจำนำข้าว ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผ่านไปเกือบ 5 เดือนกับการเฝ้ารอคำตอบว่าอดีตนายกฯ หนีไปอยู่ที่ใด จนล่าสุดเมื่อ วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า “ยังไม่มีข้อมูลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางเข้าประเทศอังกฤษด้วยสถานะอะไร อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวมีการรับรู้กันมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีทีแล้ว เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเล่าให้ฟังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการประสานไปยังประเทศอังกฤษหรือไม่หลังจากมีข้อมูลชัดเจนแล้ว นายดอน กล่าวว่า ประสาน เพราะรับฟังมา แต่เรายังไม่เห็นตัว เมื่อถามว่า รัฐมนตรีต่างประเทศแจ้งให้ทราบหรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอลี้ภัย หรือมีสถานะใดจากประเทศอังกฤษ นายดอน กล่าวว่า ไม่มีอะไร เพียงแต่เล่าให้ฟังว่า อยู่กรุงลอนดอน ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะถือพาสปอร์ตของชาติอื่นในการเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ นายดอน กล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เพิกถอนพาสปอร์ตทุกฉบับของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทุกฉบับแล้ว
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ตอบคำถามเรื่องนี้ว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ สำหรับกรณีที่หลบหนีไปต่างประเทศก็จะต้องมีการสอบถามผ่านไปทางกระทรวงการต่างประเทศถ้ายังไม่มีการตอบมาก็ยังไม่ยืนยัน ถึงแม้จะมีการพบปะหรือพบเห็นในคลิปต่างๆแล้วก็ตาม แต่ตนถือว่าการทำงานของราชการเป็นเรื่องของตัวบทกฎหมาย ก็ต้องมีการยืนยันมา ในส่วนของขั้นตอนต่างๆ เรื่องของคดีความผิดต่างๆ ก็เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เมื่อได้รับหลักฐานและการยืนยันอย่างชัดเจนก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน
เมื่อถามว่านายดอน รมว.การต่างประเทศระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ พำนักอยู่ที่อังกฤษจริง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ ใครยืนยัน ก็เป็นเรื่องที่มีคนเห็น เรื่องนี้เมื่อมีการยืนยันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่มีอยู่ ถ้ามีการยืนยันออกมาก็ต้องทำหลักฐานออกมาแจ้งว่ามีความผิดอะไรอย่างไร ก็ขึ้นอยู่ว่าแต่ละประเทศเขาจะพิจารณา ”
“ แล้วที่ผ่านมาอดีตนายกรัฐมนตรีคนก่อนกลับมาหรือยัง เขาส่งกลับมาไหม ขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องนี้เป็นประเด็นในประเทศเลย ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าได้กลับมาก็ดีซึ่งทุกคนก็คาดหวังเช่นนั้น แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องของต่างประเทศเราจะไปควบคุมเขาอย่างไรได้ หลายเรื่องผู้หลบหนีคดีต่างๆมีเยอะแยะก็สุดแล้วแต่ประเทศนั้นๆจะพิจารณา เขามีหลักการคิดแบบเดียวหรือแตกต่างจากเราก็ไม่รู้ ซึงของเราเองก็มีเหมือนกันเมื่อเขาขอตัวมาไม่ใช่ว่าเราจะให้ มันต้องดูในหลายมิติ ไม่ใช่เรื่องว่าเราไปยอมเขามันไม่ใช่ มีหลายคนที่ต่างประเทศขอตัวมาซึ่งเราก็ไม่ได้ตอบกลับไปก็เป็นเรื่องของสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดน บางอย่างก็เป็นเรื่องของกฎหมายไทยอยู่ ซึ่งเราต้องยึดกฎหมายไทยเป็นหลัก ”
เมื่อถามว่าได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ต้องสั่งอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่สั่งให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ก็ต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ หลายอย่างก็อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม หลายอย่างก้อยู่ระหว่างขั้นตอนการฟ้อง หลายอย่างก็เป็นขั้นตอนของทางตำรวจสากลซึ่งมีขั้นตอนอยู่แล้ว เรื่องนี้เดี๋ยวเขาก็ทำเอง อย่าไปสร้างปัญหาเยอะเลย “ ผมตอบแบบนี้ก็น่าจะเข้าใจแล้ว ว่าทั้งหมดก็มีขั้นตอนของมันอยู่ เราจะทำอะไรตามความชอบใจไม่ได้ อะไรๆก็จะให้ผมบังคับใช้กฎหมายไปเอาตัวกลับมาทันไม่ได้เพราะไปใช้กับประเทศอื่นไม่ได้ ”