คสช.คลายล็อคการเมือง เปิดทางตั้งพรรคใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้อำนาจหัวหน้า คสช.ลงนามในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560
ซึ่งคำสั่งฉบับนี้ เป็นเรื่อง การดําเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้ขยายกําหนดเวลาตามบทเฉพาะกาล มาตรา 141 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งกําหนดเวลาดังกล่าวอาจขยายได้อยู่แล้วเป็นกรณีๆ ไป โดยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่เพื่อให้ทุกพรรคการเมือง ได้รับประโยชน์เสมอกันจึงควรได้รับการพิจารณาไปพร้อมกัน
โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย อธิบายว่า คำสั่ง คสช.ดังกล่าวมีเนื้อหาโดยสรุปจะปลดล็อก 4 ระดับ คือ ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2560 ถึงวันที่ 1 มี.ค. 2561 ช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-1 เม.ย. 2561 และช่วงที่ 3 ตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นไป ก่อนที่จะถึงช่วงที่ 4 คือการยกเลิกประกาศ คสช.และคำสั่งทั้งหมดที่จะเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการเลือกตั้งอย่างเสรี ดังนั้นการปลดล็อกทั้งหมดขอให้อ่านรายละเอียดคำสั่งข้อสุดท้ายที่จะออกมา ขณะนี้ไม่สามารถกำหนดเป็นวันที่ได้เพราะติดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาบางอย่าง
“ส่วนการประชุมเพื่อปรับเปลี่ยนตัวคณะกรรมการบริหารพรรคของพรรค การเมืองเก่ายังไม่สามารถทำได้ จะต้องรอให้มีการปลดล็อกก่อน แต่มีความจำเป็นสามารถขออนุญาตกับ คสช.ได้ ส่วนการประชุมเพื่อตั้งพรรคของพรรคการเมืองใหม่นั้นสามารถทำได้ เพราะไม่เกี่ยวกับการปลดล็อก” นายวิษณุ กล่าว
ส่วนท่าทีของฝ่ายการเมือง ดาหน้าออกมาไม่เห็นด้วยกับม. 44 ฉบับนี้ อย่าง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คสช.ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 53/2560 ขยายเวลาการทำธุรการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า ตนคิดเหตุผลการให้สมาชิกพรรคเดิมที่กฎหมายยกเว้นให้ไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกในระยะเริ่มแรกระยะหนึ่ง ต้องมาแสดงตนและจ่ายค่าสมาชิกทันที ไม่ค่อยออก เพราะการทำให้พรรคการเมืองเป็นของมหาชนจำเป็นต้องให้มีสมาชิกจำนวนมาก การกำหนดเช่นนี้จะทำให้สมาชิกพรรคการเมืองเดิมหายไปจำนวนมาก เพราะทั้งพรรคการเมืองและสมาชิกเดิมจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายทันที เป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลสวนทางกับความต้องการให้พรรคการเมืองเป็นพรรคมหาชน มีเจตนาแอบแฝงเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองใหม่ที่ประกาศตัวจะสนับสนุนทหารหรือไม่ ทั้งนี้ กฎหมายเดิมร่างโดยกรธ.และสนช.ที่คสช.ตั้งมาให้ความเห็นชอบ
“จึงเป็นเรื่องประหลาดหรือไม่ที่มาออกคำสั่งเช่นนี้แทนที่จะยกเลิกคำสั่งคสช. กฎหมายลูกผ่านกระบวนการตรากฎหมาย ทุกขั้นตอนหากจะแก้ไขก็ต้องใช้ขั้นตอนปกติ ไม่ควรใช้อำนาจพิเศษมาแก้ ที่สำคัญคือ ไม่มีเหตุฉุกเฉินอะไร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะคสช.ไม่ยอมปลดล็อกเอง” นายพงษ์เทพ กล่าว
ส่วน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การขยายเวลาดังกล่าวไม่ถือเป็นการปลดล็อกทางการเมือง เพราะการปลดล็อกหมายถึงการให้พรรคทำกิจกรรมได้ในทันที แต่คำสั่งนี้เป็นเพียงการขยายเวลา การขยายเวลานี้ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่ความผิดของพรรค ไม่ใช่ความผิดของกกต. หรือกรธ. เพราะกฎหมายพรรคการเมืองประกาศใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ซึ่งมีการกำหนดเวลาไว้ ดังนั้น แต่ละพรรคต้องการดำเนินตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลตามโรดแม็ปของคสช. แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ ท้ายที่สุด เวลาทอดมาจนครบกำหนด ถ้าพรรคไม่ทำตามนั้น จะถูกตัดสิทธิส่งสมาชิกลงสนามเลือกตั้ง ต้องย้อนถามว่าเป็นความผิดของพวกเราที่ละเลยไม่ทำตามกฎหมายหรือไม่ ตอบได้ว่าไม่ใช่เลย.