คลังชง ครม.ตั้ง คกก.เร่งเบิกจ่ายงบฯ
คลังจ่อชง ครม. รับลูก! ตั้ง “คกก.เร่งรัดเบิกจ่ายเงินหลวง” หวังดันโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานเกิดเร็วขึ้น พร้อมเปิดให้บริการประชาชนทันที ด้าน “อาคม” ยอมรับ หากมีเหตุฉุกเฉิน! พร้อมตั้งเรื่องกู้เงินโปะขาดดุลกว่า 6 แสนล้านบาท ย้ำ! ตอนนี้ ปล่อยให้ สบน.กู้ตามปกติไปก่อน มั่นใจจัดเก็บรายได้เข้ารัฐยังเป็นไปตามเป้าหมายเดิม
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการแต่งตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ที่มี รมว.คลัง เป็นประธานฯ โดยมีหน้าที่ดูแลแผนงานในภาพรวม และเร่งรัดการเบิกจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะด้านการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จะเป็นประโยชน์และช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงเร่งรัดโครงการก่อสร้างฯ เพื่อเปิดให้บริการแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าว จะทำงานประสานใกล้ชิดกับสำนักงบประมาณ โดยจะเน้นที่การลงทุนและการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นหลัก และหากจำเป็นก็พร้อมจะเสนอปรับเพิ่มวงเงินประมาณเพื่อให้การดำเนินโครงการแล้วเสร็จโดยเร็ว
สำหรับปีงบประมาณฯ 2564 ที่รัฐบาลจัดทำประมาณการจ่ายไว้ที่ 3.3 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบขาดดุล 623,000 ล้านบาท จะทำให้รัฐบาลต้องกู้ยืมเงินมาเพื่อโปะการขาดดุลหรือไม่? และคาดการประมาณการจัดเก็บรายได้ของรัฐ โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีจะลดลงแค่ไหน? เรื่องนี้ นายอาคม ย้ำว่า กระทรวงการคลังยังคงยึดกรอบการจัดเก็บรายได้ไว้ในระดับเดิมที่ 2.677 ล้านล้านบาท
ส่วนการกู้ยืมเงิน ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (สำนักบริหารหนี้สาธารณะ หรือสบน.) ก็ดำเนินการกู้ยืมเงินตามช่วงเวลาที่เหมาะสมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้กู้ยืมเงินในครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่ามาตรการที่ภาครัฐดำเนินการออกมา แม้จะทำให้กรมภาษีสูญเสียรายได้บางตัวไปบ้าง แต่จะมีรายได้ตัวอื่นๆ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มเข้ามาเสริม
“การกู้ยืมเงินเพื่อนำมาชดเชยงบประมาณขาดดุล ถือเป็นเรื่องปกติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากจำเป็นรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ก็พร้อมดำเนินการกู้ยืมเงินตามมาตรการฉุกเฉิน แต่ถึงตอนนี้ ยังไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องทำเช่นนั้น” รมว.คลังย้ำ
