ตลาดอี-คอมเมิร์ซยังรุ่งโต10%ต่อปี

พาณิชย์พร้อมหนุนผู้ประกอบการเข้าสู่ อี-คอมเมิร์ซ เชื่อตลาดยังขยายไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี ด้านนักวิชาการ ม.กรุงเทพฯ แนะ 5 กลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
การตื่นตัวด้านการค้าออนไลน์ในยุคดิจิทัล 4.0 ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันผู้ประกอบการต่างเข้าถึงช่องทางดังกล่าวเป็นกลยุทธ์การขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยนางลลิดา จิระนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีประชากรที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 90 ล้านเครื่อง ในจำนวนนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 46 ล้านเครื่อง อีกทั้งยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กถึง 35 ล้านราย มากเป็นอันดับ 3 ของโลก แสดงให้เห็นว่าโอกาสในการค้าขายสินค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน มีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.4 ล้านล้านบาท และจากการประเมิน คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละมากกว่าปีละ 10% สินค้าที่ได้รับความนิยมซื้อขายผ่านออนไลน์ เช่น สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสื่อสาร อาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์
“กรมฯ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการหันมาให้ความสำคัญกับการค้าขายออนไลน์ หรือคนที่คิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจต้องมีช่องทางการค้าขายออนไลน์ด้วย เพราะเป็นแนวโน้มใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม โดยกรม พร้อมสนับสนุนในด้านการพัฒนาด้านต่างๆ และผลักดันให้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างความเชื่อมั่น” นางลลิดา กล่าว
ด้านนายกิตติคม ปล้องนิราศ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดดิจิทัล มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แนะนำถึงกลยุทธ์ทำการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ว่า การทำตลาดดิจิทัลให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด ผู้ประกอบการจะต้องรู้จัก 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. การทำความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ 2. เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ทำให้การสื่อสารตรงทาร์เก็ต 3. ผู้ดูแลเพจต้องรู้จักจุดเด่นของตัวสินค้าเป็นอย่างดี 4. ผู้ดูแลเพจต้องเข้าใจหลักการทำงานของแต่ละแพลตฟอร์ม เพราะแพลตฟอร์มที่ต่างกัน และ 5. เป็นประเด็นสำคัญที่สุด คือ ผู้ดูแลเพจต้องไม่โอ้อวดสินค้าเกินจริง เพราะอาจลดทอนความน่าเชื่อถือ
“ในส่วนของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เริ่มใช้ช่องทางการตลาดดังกล่าวเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้แฟนเพจเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัยกรุงเทพเป็นตัวกลางหลัก ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน และล่าสุดยังขึ้นแท่นอันดับ 3 ของเพจที่มียอด engagement (ยอดวัดผลตอบรับจากผู้ชมที่มีต่อเนื้อหา) สูงสุดของโลกในหมวดหมู่สถาบันการศึกษา ชนะมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดในสหรัฐอเมริกาที่ครองอันดับ 4 จากการสำรวจของ Socialbakers เว็บไซต์ด้านการวิเคราะห์และจัดอันดับสื่อโซเชียลที่ได้รับความเชื่อถือในระดับสากล” นายกิตติคม กล่าว