ถอดรหัส 3 ปม ทำ “ปรีดี” ถอดใจ
ลือแรง! 3 ปมทำ…ขุนคลังอายุไม่ถึงเดือน “ปรีดี ดาวฉาย” ประกาศไขก๊อกลาออกจากตำแหน่ง หวั่นกระทบภาพลักษณ์และการทำงานของรัฐบาล
ข่าวลือ…คือข่าวจริงที่ยังไม่ถึงเวลาประกาศ! สุดท้าย…เรื่องที่สะพัดในโลกโซเชียลมีเดีย กรณี “เดอะต๊อก” นายปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง อายุ “ไม่ถึงเดือน” ประกาศลาออก โดยอ้างปัญหาสุขภาพ ก็มีน้ำหนักความเป็นจริง หลังจาก…ก่อนหน้านี้ เกิดปมขัดแย้งเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการคลัง ถึงขั้น…กระทรวงการคลัง จำต้องถอนเรื่องออกไปก่อน ที่คณะรัฐมนตรีสัญจร ใน จ.ระยอง จะได้พิจารณา
3 เรื่องที่น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ นายปรีดี ตัดสินใจประกาศ “ลาออก” นอกจาก เรื่องแรก คือ ปัญหาในการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ตัวเขาอยากเห็น…นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และโฆษกกระทรวงการคลัง ไปนั่งเก้าอี้ อธิบดีกรมสรรพสามิต แทนที่ นายพัชร อนันตศิลป์ ที่โยกไปนั่งเก้าอี้อธิบดีกรมศุลกากร เพราะ “เจ้าของคนเดิม” นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ มีโปรแกรมจะลาจากไปนั่งในตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ในวันที่ 1 ต.ค.นี้
แต่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง หนึ่งในสายตรงของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต้องการสนับสนุนให้ นายประภาศ คงเอียด ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มานั่ง เก้าอี้ อธิบดีกรมสรรพสามิต แล้วโยกให้ นายลวรณ สลับไปนั่ง ผอ.สคร. แทน
สะท้อน เรื่องที่ 2 กับภาพที่ว่า…“ตัวว่าการฯ” ไม่มีอำนาจตัดสินในการกำหนดนโยบายและแนวทางการการทำงาน ไม่แม้กระทั่ง จะแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 สักคนเดียว
ส่วน เรื่องที่ 3 อาจไม่ใช่ปมปัญหาหลัก แต่ก็น่าจะแรงเหวี่ยงกระตุ้นให้ นายปรีดี รมว.คลัง อายุ “ไม่ถึงเดือน” ไม่ต้องการแบกภาระความเสี่ยงในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพราะปมข้อที่ 2 ทำให้ตัวเขาต้องทำงานตาม “ใบสั่ง” ของผู้มีอำนาจทางการเมืองที่เหนือกว่า…
ดังนั้น การจะตัดสินใจดำเนินการใดๆ ภายใต้กระทรวงการคลัง เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่แม้จะมี…ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบศ.) ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ก็อาจไม่เป็นไปตามแผนที่ร่วมกันวางไว้ได้
เพราะชัดเจนแล้วว่า…งานนี้ “ขาใหญ่” นอกกระทรวงฯ ลงมาเล่นเต็มตัว กับการจะวาง “คนของตน” ลงในสายงานที่ต้องการ…
แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ยังต้องมาเจอกับกลุ่มคน “อนาคตชาติ” ที่ประกาศขับไล่รัฐบาลทุกเมื่อเชื่อวันอีก
อยู่ไป…รังแต่จะเสียหาย!!!
ล่าสุด มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยอม “หักดิบ” ยกให้ นายลวรณ นั่งเก้าอี้อธิบดีกรมสรรพสามิต และให้ นายประภาศ นั่งเก้าอี้ ผอ.สคร. ตัวเดิม เพื่อหวังจะรั้งตัว นายปรีดี ให้อยู่กับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 ต่อไป ด้วยเกรงว่าการจากไปของ นายปรีดี จะกระทบต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อและความเป็น “มืออาชีพ” ของรัฐบาล
มากกว่านั้น…อาจดึงเอาคนอื่นๆ โดยเฉพาะ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มี เชาว์รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ออกตามไปด้วย ทีนี้ล่ะ…กลายเป็นเรื่องใหญ่มาก
เพราะแค่…นายปรีดี ดีกรี…อดีต กก.ผจก.ใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ยักษ์ใหญ่ 1 ใน 5 ของแบงก์พาณิชย์ไทย ที่มีอีกหลายๆ ตำแหน่งพ่วงท้าย…ไม่ว่าจะเป็น อดีต ประธานสมาคมธนาคารไทย และอดีตประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งแต่ละตำแหน่ง ล้วนเป็น “บิ๊กเบิ้ม” ในวงการภาคธุรกิจเอกชนของประเทศไทย
หากคนหนึ่งคนใด หรือทั้ง 2 คนประกาศลาออกล่ะก็…โอกาสจะ “ปิดจ๊อบ” รัฐบาล ก็ใกล้เข้ามาเต็มทน!
สำหรับ นายปรีดี เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง รมว.คลัง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. โดยเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2563.