สรุปข่าว 5 -8- 63
หุ้นทั่วโลกปิดตลาดแดนบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 26, 828.47 จุด พุ่งขึ้น 164.07 จุด หรือ +0.62% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,306.51จุด เพิ่มขึ้น 11.90 จุด หรือ +0.36% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,941.17 จุด เพิ่มขึ้น 38.37จุด หรือ +0.35% สอดคล้องกับดัชนีตลาดหุ้นไทยปิด(4 ส.ค.) ที่ 1,330.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.58 จุด หรือ 0.72% มีมูลค่าการซื้อขาย 55,135.39 ล้านบาท.ปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาค
น้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือน ก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 69 เซนต์ สู่ระดับ 41.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซ็นต์ ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทองในประเทศลดบาทละ50
ราคาทองในประเทศวานนี้ (4 ส.ค.)เคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยราคาปรับลดลงแค่ 1 ครั้งในช่วงเปิดตลาด ทำให้ราคาทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 28,950.00ขายออกบาทละ29,050.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 28,425.00 ขายออกบาทละ29,550.00
เงินบาทแข็งค่าแตะ 31.09 บาท/ดอลล์
เงินบาทปิดตลาดเย็นวานนี้(4ส.ค.)ที่ระดับ 31.09 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับระดับเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 31.21 บาท/ดอลลาร์
ประชุม ครม.สัญจร จ.ระยอง 24-25 ส.ค.
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มีข้อสั่งการว่าจะมีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.ระยอง ในระหว่างวันที่ 24-25 ส.ค.นี้ พร้อมกับการลงพื้นที่พบปะประชาชนด้วย ส่วนรายละเอียดนั้น จะแจ้งให้ทราบต่อไป
นายกฯ ปัดตั้ง”ธนกร”นั่งโฆษกรัฐบาลคนใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่มีการแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ขอลาออกจากตำแหน่ง ส่วนกระแสข่าวระบุชื่อนายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ยังไม่ได้พิจารณา แต่ก็มีคนเสนอมาหลายชื่อให้พิจารณาแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ทั้งนี้คุณสมบัติของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องเป็นบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ สามารถสื่อสารงานของรัฐบาลให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย และเน้นการสื่อสารผ่านทางโซเชี่ยลได้ดี
นายกฯคาดสัปดาห์หน้า ศบค.ได้ข้อสรุปเปิดประเทศรับนักธุรกิจต่างชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการที่จะเปิดรับนักธุรกิจต่างชาติให้สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ หลังจากวานนี้ได้มีการหารือในกรอบเบื้องต้นไปบ้างแล้ว พร้อมยอมรับว่า เป็นห่วงการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งตนได้ให้แนวทางให้มีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ภายในเดือนนี้ ส่วนรูปแบบให้ทางกระทรวงไปพิจารณามา
ครม.อนุมัติโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก 157 โครงการ กว่า 800 ลบ.
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมตามโครงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทเพิ่มเติมจำนวน 157 โครงการ วงเงิน 884.62 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่แต่ละจังหวัดเสนอขึ้นมา ครอบคลุม 57 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ 22 โครงการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 65 โครงการ ภาคกลาง 30 โครงการ ภาคตะวันออก 2 โครงการ ภาคใต้และจังหวัดชายแดนใต้ 38 โครงการ
คกก.อัยการยันคดี ‘บอส’ พยานใหม่-ยังไม่ถึงที่สุด
นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ กล่าวว่า แม้คดีนี้จะมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่มิได้หมายความว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว คณะทำงานตรวจพบว่า คดียังไม่ถึงที่สุด กล่าวคือ เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดี ซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหานั้นได้ ก็สามารถสอบสวนต่อไปได้
NOK เผยส.ส.-อดีต ส.ส. 113 ราย ค้างค่าตั๋วกว่า 3.5 ลบ.
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับการเปิดเผยจากผู้บริหาร บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ถึงสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ซึ่งได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย โดยเมื่อเดือน มิ.ย.63 บริษัทฯ ได้ทำหนังสือเรื่องการติดตามยอดค้างชำระกรณีไม่เดินทางของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยมียอดค้างชำระของ ส.ส.และอดีต ส.ส.ปี 2555-2556 จำนวน 113 ราย ยอดหนี้รวม 3,522,419.53 บาท โดย ส.ส.บางรายเป็นหนี้ถึง 270,000 บาท และมี ส.ส.ที่เป็นหนี้หลักแสนถึง 5 ราย ต่ำสุด 2,900 บาท
สรท.คงส่งออกทั้งปี 63 หดตัว -10%
น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือสรท. เปิดเผยว่า สรท. คงคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2563 หดตัว -10 โดยมีปัจจัยบวกได้แก่ 1. การส่งออกในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการ work from home ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 2. ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะที่ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ 1. ผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก 2.สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ 3.ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำกว่าปี 62 4.ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง แต่ยังต่ำกว่าความคาดหวัง 5.การขาดสภาพคล่องทางการเงินของผู้ประกอบการ 6.ปัญหาด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ยังมีจำกัด
“เงินติดล้อ” ทุบดอกเบี้ยสินเชื่อทะเบียนรถ เหลือ 0.88%
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด กล่าว บริษัทได้ออกแคมเปญพิเศษลดดอกเบี้ยสินเชื่อทะเบียนรถ ทุกชนิด ทุกคัน เหลือ 0.88% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก (18.95% ต่อปี) ระหว่าง วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2563 ซึ่งแคมเปญสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษของเงินติดล้อ ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือสินเชื่อประเภทอื่นๆ ซึ่งอาจมีดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อทะเบียนรถ เป็นทางเลือกในการขอสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจากเงินติดล้อเพื่อนำเงินไปปิดยอดสินเชื่อเดิมที่ใช้บริการอยู่ นับเป็นวิธีลดภาระทางการเงินได้อีกทางหนึ่ง