ชู โคกหนองนาโมเดล ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
สมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง เสนอรัฐเปิดทางชาวเหมืองแร่ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยรูปแบบ “โคกหนองนาโมเดล” นำอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน
นายวิจักษ์ พงษ์เภตรา นายกสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ว่า มี 3 ขั้น คือ ขั้นแรกต้องอยู่รอดให้ได้โดยใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยี และความร่วมมือร่วมใจของทุกคนที่เกี่ยวข้องเพื่อผ่านวิกฤตไปด้วยกัน ขั้นที่สอง ต้องฟื้นฟูความแข็งแรงทางธุรกิจ อะไรที่ติดขัดที่เป็นปัจจัยภายในที่ควบคุมได้ต้องขจัดให้ลื่นไหลโดยไม่ยึดติดกับแนวคิดหรือทฤษฎีแบบเดิมๆ ขั้นที่สาม มองหาทางออกและเติบโตในอนาคตในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal ทั้งภาครัฐ เอกชน ราชการ และประชาชน ต้องคิดในแนวนี้ทั้งประเทศ จึงจะฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ได้
สำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสินแร่และวัสดุก่อสร้าง ก็ต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ที่มุ่งเน้นการทำเหมืองที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ประกอบการจะมาทำเหมืองแร่ในช่วงเวลาไม่กี่ปี หลังจากนั้นจะคืนพื้นที่ต่อประเทศในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ต่อชุมชนและสังคม เช่นสร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค สร้างแหล่งท่องเที่ยว สร้างป่า ตามแต่เจ้าของพื้นที่อยากให้เป็นอะไรแล้วใช้ประโยชน์ต่อไปในระยะยาว
“ปัจจุบันมีตัวอย่างการทำเหมืองเพื่อเกษตรกรรมเรียกว่าโคกหนองนาโมเดล เป็นแหล่งหนองน้ำเพื่อการเกษตรโดยรอบพื้นที่ เชื่อมโยงเป็นระบบชลประทาน เป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นแหล่งสำรองน้ำหรือธนาคารน้ำไว้สู้กับภัยแล้ง และเป็นแก้มลิงยามน้ำท่วม กล่าวได้ว่าดำเนินการตามศาสตร์พระราชาที่มีคุณค่ายิ่งนัก” นายวิจักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ทางสมาคมได้นำเสนอ และประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หาแนวทางสร้างดุลยภาพระหว่างผู้ประกอบการทำเหมืองแร่กับเกษตรกรในพื้นที่ จนมีทางออกให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของพ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยการออกแบบการทำเหมืองแบบโคกหนองนาโมเดลที่ภาครัฐและราชการยอมรับ แต่ยังติดขัดเรื่องการตีความทางกฎหมายในการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงที่รองรับคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ออกมาในปี 2560