กรมศุลฯชู “ซูเปอร์คาร์” นำทีมประมูลรถของกลาง
กรมศุลฯจัดประมูลรถยนต์ของกลางกว่า 200 คัน ชู “ซูเปอร์คาร์” คันละ 10-20 ล้านบาท นำร่องรูปแบบประมูลใหม่ “ไฮบริดจ์” ผสาน “ออฟไลน์-ออนไลน์” ลดครหาฮั้วราคา พ่วงสกัดปมผู้เข้าประมูลฯเกรงใจ “ขาใหญ่” เผย! มีรถหรูยี่ห้อดังแค่กว่า 10 คัน แต่ดันยอดเงินประมูลพุ่งเกิน 100 ล้านบาท จากเป้า 300 ล้านบาท “โฆษกกรมศุลฯ” ระบุ! ประมูลราคาตามสภาพรถ ชี้! มีบางคันสตาร์ทไม่ติด หรือขับไม่ได้ ย้ำ! ได้ราคาถูกบวกค่าซ่อม ยังถูกกว่าซื้อมือสอง ด้าน “บิ๊ก’สยามอินเตอร์ฯ” เชื่อ! ได้งานนี้ เพราะระบบจัดการมีประสิทธิภาพและประสบการณ์ตรง 16 ปี พร้อมเปิดประมูลจริง 8 ส.ค.นี้
นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายธาดา ชุมไชโย ผอ.กองสืบสวนและปราบปราม นายสิทธิศักดิ์ มหาสิทธิวัฒน์ ปธ.กก. และนายกาย นันต์ธนะ รอง ปธ.กก. บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด ร่วมแถลงข่าว จัดงานประมูลรถของกลาง ปี 2563 โดยวิธีการประมูลด้วยวาจา (ยกป้ายหน้าลาน” หรือออฟไลน์ และระบบประมูลออนไลน์ ที่จะมีขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 8 ส.ค.นี้ ณ กรมศุลกากร คลองเตย กทม. โดยมี รถยนต์ “ซูเปอร์คาร์” และรถยนต์เก๋งอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นรถยนต์มือสองนำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์ ยี่ห้อต่างๆ รวมกว่า 200 คัน
นายชัยยุทธ ยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันอาจมีผลต่อกำลังซื้อของคนทั่วไป แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อในอัตราสูงและต้องการได้รถยนต์หรู โดยเฉพาะ “ซูเปอร์คาร์” ไปครอบครอง โดยการจัดงานประมูลครั้งนี้ กรมฯมอบหมายให้ บจ. สยามอินเตอร์การประมูล (SIA)เป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่เวลา 08.30 น. สำหรับรถยนต์ที่น่าสนใจ อาทิ Ferrari California, Porsche Panamera Turbo และ Nissan GTR เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นรถยนต์ของกลาง ที่กรมฯจับกุม โดยใช้เวลาในการดำเนินการค่อนข้างนาน บางคันใช้เวลานานถึง 5 ปี กว่าคดีจะสิ้นสุด ทำให้สภาพของรถยนต์ ณ วันทำการทำประมูล อาจไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ เช่น บางคันสตาร์ทไม่ติด บางคันสตาร์ทติดแต่ขับไม่ได้ ซึ่งถือเป็นการประมูลตามสภาพของรถยนต์ ซึ่งเมื่อคำนวณราคาที่ได้ไปรวมกับค่าซ่อมเพื่อให้รถยนต์กลับมาวิ่งได้ใหม่นั้น ยังถูกว่าการซื้อมือสองในท้องตลาด
สำหรับการนำรถไปยื่นขอจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกนั้น เบื้องต้นกรมฯได้หารือแล้ว ผู้ชนะการประมูลสามารถนำรถยนต์ไปยื่นขอจดทะเบียนได้ทันที แต่หากติดขัดปัญหาจนไม่สามารถยื่นขอจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้แล้ว กรมฯพร้อมจะคืนเงินให้ แต่ต้องนำรถยนต์มาคืนภายในเวลาไม่เกิน 5 เดือน นับจากวันที่ได้รถยนต์ไปแล้ว
“การประมูลรถของกลางของกรมศุลกากรในครั้งนี้ เป็นการเปิดประมูลด้วยวาจา และประมูลผ่านระบบออนไลน์ในคราวเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าประมูลได้รับความสะดวก ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สามารถประมูลได้ทุกที่และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019” โฆษกกรมศุลกากร ย้ำ
ขณะที่ นายธาดา กล่าวเสริมว่า รถยนต์ของกลางที่อยู่ในความดูแลของกรมฯ มีราว 3,000 คัน แต่กลุ่มรถยนต์ที่คดีถึงที่สุดและนำมาประมูลในรอบนี้ มีเพียง 200 คัน โดยจำนวนนี้ เป็นรถยนต์ “ซูเปอร์คาร์” กว่า 10 คัน แต่ละคันมีราคาตลาดในกลุ่มรถมือสอง ตั้งแต่ 10-20 ล้านบาท ทั้งนี้ จากจำนวนรถยนต์ 200 คันที่จะนำมาประมูลในครั้งนี้ มีเพียง 70 คันเท่านั้น ที่มีปัญหาและไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้ ซึ่งการตั้งราคาก็จะถูกลงไปเป็นจำนวนที่สูงมาก คาดว่ากรมฯจะมีรายได้จากการประมูลในรอบนี้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในการตั้งราคาประมูลฯนั้น จะตั้งจากราคาจริงของรถยนต์ตามราคาท้องตลาดเฉลี่ยประมาณ 20% เท่านั้น เพื่อให้มีการ “ไล่ระดับราคา” ในการเสนอราคาประมูล ผ่านทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ที่จะสร้างความเป็นธรรม และป้องกันปัญหาผู้มีอิทธิพล ที่สร้างความเกรงใจในการประมูลหน้างานได้
ด้าน นายสิทธิศักดิ์ ระบุว่า บริษัทฯมีประสบการณ์จัดประมูลรถยนต์มากว่า 16 ปี ที่ผ่านมาใช้ระบบออฟไลน์คู่กับออนไลน์ (ไฮบริดจ์) เพื่อแก้ไขปัญหาการฮั้วประมูล หรือปัญหาเกรงใจ “ขาใหญ่” ในวงการประมูล นั่นอาจมีส่วนให้กรมศุลกากรเลือกใช้บริการของบริษัทฯ ในอดีตบริษัทฯมียอดขายในการประมูลมากกว่า 300,000 รายการ และมีผู้ร่วมประมูลกว่า 100,000 การร่วมประมูล สำหรับการดำเนินการประมูลขายทอดตลาดรถของกลางครั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ได้ผลการประมูลที่มีประสิทธิภาพ ทั้งด้วยการประมูลด้วยวาจา (ออฟไลน์) และการประมูลด้วยระบบออนไลน์ คือ ระบบ SIA Real-time online Auction System ซึ่งเป็นระบบการประมูลออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถรองรับการประมูลสำหรับผู้เข้าประมูลจำนวนมาก โดยพัฒนาและใช้กับการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ให้กับสถาบันการเงินต่างๆ ธนาคาร ไฟแนนซ์ เช่าซื้อ และองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ในประเทศไทยมาแล้วหลายแห่ง จึงมั่นใจได้ว่าการประมูลรถของกลาง ของกรมศุลกากรจะมีสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม
ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมประมูล สามารถเริ่มลงทะเบียนออนไลน์ และชำระเงินมัดจำป้าย(เงินค้ำประกันการประมูล) พร้อมทั้งดูรายละเอียดรถ และชมคลิปรีวิว รวมถึงขั้นตอนการประมูลต่าง ๆ ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. จนถึงวันประมูล ได้ที่ https://customsauction.sia.co.th ของบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด (SIA) และท่านที่สนใจชมสภาพรถจริง สามารถเข้าชมได้ ตั้งแต่วันที่ 5– 7 ส.ค.ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. ณ ลานจอดรถหน้าส่วนของกลาง กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร คลองเตย ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดที่ครบถ้วน ได้ที่ https://customsauction.sia.co.th หรือ www.customs.go.th หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่ Add Line Official : @customsauction.sia.