RMLเร่งแผนเพิ่มรายได้เสริมสภาพคล่องสู้โควิด
ไรมอนแลนด์ กลุ่มทุนอสังหาฯสิงคโปร์ ปรับกลยุทธ์สู้โควิด-19 กับแผนเพิ่มรายได้และเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เผยผลสำเร็จปิดการขาย 2 โครงการ ปั๊มรายได้จากยอดจองพรีเซลล์เกือบ 600 ล้านบาท
นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ “RML” กล่าวว่า จากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางบริษัทฯได้ดำเนินการตามแผนที่จะปรับตัวให้รับต่อสถานการณ์นี้ โดยมุ่งบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและใช้กลยุทธ์การขายที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อเสริมความมั่นคงของสถานะเงินสด เนื่องจากโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ข้อจำกัดงดการเดินทางทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติ ไม่สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ ส่งผลให้การโอนโครงการเป็นไปได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่า จากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว จะทำให้บริษัทฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤตนี้ผ่านพ้นไป
“บริษัทมีแผนที่จะรักษากระแสเงินสดไว้ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบดีลมูลค่า 712 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นกู้ในเดือน มิ.ย.2563 โดย ไรมอนแลนด์ เป็นผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งคำนึงถึงการรักษาสภาพคล่องทางการเงินเป็นสำคัญ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19”
ขณะที่ช่วงไตรมาส1ปี 63 ทางบริษัทฯสามารถปิดการขาย 2 โครงการได้แก่ Mews Yen Akat และ The Lofts Asoke ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ปิดการขายโครงการที่เหลืออยู่ ถือว่ามีกระแสตอบรับที่ดี ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยเมื่อรวมกับยอดขาย (Presales) จากโครงการอื่นๆ ส่งผลให้บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 599 ล้านบาทในไตรมาสนี้ จะช่วยเสริมความมั่นคงของสถานะเงินสดของบริษัทได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ บริษัทได้พยายามกระตุ้นความต้องการในตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย โดยใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) โปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนการเปิดตัวโรงแรมHotel KITCH จะมีการเลื่อนไปเปิดช่วงไตรมาส4ปีนี้ จากแผนเดิมจะเปิดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากด้วยมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมโดยรวม อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าในระยะกลางถึงระยะยาว อุตสาหกรรมโรงแรมจะสามารถกลับมาดีขึ้นได้แน่นอน เมื่อประเทศไทยและทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 โดยบริษัทยังมุ่งเน้นหาโอกาสในการลงทุนและขยายกิจการโรงแรมเพิ่มเติม โดยจะขยายสัดส่วนรายได้ประจำให้มีความหลากหลายมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2563 บริษัทมีรายได้รวม 424 ล้านบาท ลดลง 71% ซึ่งรายได้ที่ลดลงในไตรมาสนี้ เกิดจากข้อจำกัดงดการเดินทาง ที่ทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงโครงการ The Lofts Silom ซึ่งมีสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติมากถึง 37% และขาดทุนสุทธิ 139 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มี.ค. 63 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 7,881 ล้านบาท.