เปิดตลาด “จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ” ช่วย SME
สสว. จับมือ กรมบัญชีกลาง สภาพัฒน์ฯ และภาคีเครือข่าย ดัน SME รุกตลาด จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ มูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท
นางสาววิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ร่วมกับ กรมบัญชีกลาง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในนามคณะทำงานสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อบูรณาการความร่วมมือหาแนวทางการส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการ SME ให้สามารถพลิกฟื้นกิจการภายหลังวิกฤติโควิด-19 ด้วยการมุ่งสร้างโอกาสในตลาดที่สำคัญ คือ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
จากข้อมูลในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ของกรมบัญชีกลาง พบว่า ตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท แต่ที่ผ่านมา SME ยังเข้าถึงได้น้อย ซึ่งจากจำนวน SME ที่เป็นนิติบุคคลซึ่งมีกว่า 7 แสนราย มีผู้ที่สามารถเข้าสู่ระบบจัดซื้อฯ โดยร่วมยื่นข้อเสนอโครงการได้เพียง 61,956 ราย หรือเพียงร้อยละ 8.84
ทั้งนี้อุปสรรคสำคัญมาจาก SME ขาดความรู้ ความเข้าใจในการเข้าถึงระบบฯ รวมทั้งการปฏิบัติตามขั้นตอนและกระบวนการจัดจ้างของภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนที่สูง ขณะที่ความน่าเชื่อถือในการดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขการจ้างและภายในระยะเวลาที่กำหนดมีต่ำกว่ารายใหญ่
สำหรับแนวทางการส่งเสริม SME ให้เข้าสู่ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ในช่วงที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างนำเสนอ 2 มาตรการ ได้แก่ การกำหนดสัดส่วนงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างจาก SME คิดเป็นร้อยละ 30 ของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง และการกำหนดแต้มต่อด้านราคา เพื่อให้ SME ที่เสนอราคาสูงกว่าราคาต่ำสุดร้อยละ 10 สามารถเป็นผู้ชนะการแข่งขันได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้เตรียมนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
ขณะที่การบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้ คณะทำงานฯ ทั้งผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้มีความเห็นร่วมกันว่าการส่งเสริม SME ให้เข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ควรมีการดำเนินการ ประกอบด้วย
1.การขึ้นทะเบียน SME ภายใต้มาตรการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นการเฉพาะ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่กำหนด ซึ่งนอกจากจะเป็นการยืนยันตัวตนของ SME แล้ว ยังเปิดโอกาสให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทราบข้อมูลผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น
2.จัดทำบัญชีรายการสินค้าและบริการ (Product List/ SME Catalog) โดยรวบรวมรายการสินค้า SME ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ซื้อซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ สามารถเลือกซื้อหรือใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างล่วงหน้าได้ โดยสินค้านำร่องที่จะอยู่ในบัญชี SME Catalog ในเบื้องต้น ประกอบด้วย 1) อุปกรณ์ที่ใช้ในสำนักงาน 2) เครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็ก 3) ของขวัญ/ของชำร่วย 4) อาหารและเครื่องดื่ม 5) จ้างทำของ/จ้างเหมาบริการ และ 6) โรงแรม/ที่พัก/สถานที่จัดประชุม-อบรม-สัมมนาขนาดเล็ก
นอกจากนี้คณะทำงานยังมีการพิจารณาแนวทางการส่งเสริมอื่นๆ เช่น กำหนดงานที่มีมูลค่าไม่เกิน 2-5 ล้านบาท ต้องจ้าง SME โดยเฉพาะ ต้องเป็นสินค้าที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ฯลฯ และพิจารณาให้ความช่วยเหลือ SME ไม่ว่าจะเป็นให้คำปรึกษาแนะนำการเขียนข้อเสนอโครงการ การจัดเตรียมเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ รวมถึงเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจของ SME ในเรื่องดังกล่าวให้กับส่วนราชการซึ่งเป็นผู้กำหนดขอบเขตการจ้างงานได้รับรู้ เพื่อผลต่อการพัฒนาปรับปรุงเงื่อนไขการจ้างงานให้เอื้อต่อ SME มากขึ้น
ในส่วนของ สสว. ได้เตรียมนำเสนอแนวทางการส่งเสริม SME ให้เข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ประกอบด้วย 5 แนวทาง ได้แก่ 1) กำหนดโควต้าการจัดซื้อจัดจ้าง ให้มีสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะ SME ในท้องถิ่นและกลุ่ม Micro 2) การให้แต้มต่อด้านราคา 3) กำหนดประเภทสินค้าที่จะส่งเสริม 4) กำหนดวงเงินการจัดซื้อจัดจ้าง และ 5) กำหนดโจทย์การผลิตล่วงหน้า
นางสาววิมลกานต์ กล่าวว่า สิ่งที่ สสว. จะนำเสนอดังกล่าว ส่วนใหญ่สอดคล้องกับแนวทางของคณะทำงานฯ นอกจากนี้ หากกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานทั้งหมดให้มูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของ SME เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 130,000 ล้านบาท ส่วนการกำหนดวงเงินจัดซื้อจัดจ้าง SME รวมถึงผู้ประกอบการในประเทศ เห็นควรกำหนดเพดานวงเงินไม่เกิน 5.7 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับเงื่อนไขภายใต้ข้อตกลงของ WTO