“CI” ปล่อยแคมเปญเด็ด ‘หุ้นแลกห้องชุด’ เอาใจนักลงทุน
“ชาญอิสสระ” ออกแคมเปญใหม่ “หุ้นแลกคอนโด” เปลี่ยนการลงทุนจากตลาดหุ้นมาลงทุนในตลาดอสังหาฯ เอาใจนักลงทุนช่วงหุ้นผันผวน ลดความเสี่ยงกระจายพอร์ตมาลงทุนในอสังหาฯ ที่ยังมีแนวโน้มความต้องการและมูลค่าที่ดินที่สูงขึ้น
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ออกแคมเปญส่งเสริมการขาย “หุ้นแลกคอนโด” ขึ้นมาเพื่อเป็นการเปิดโอกาสกับนักลงทุน ที่ต้องการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนเป็นอสังหาริมทรัพย์แทน หลังจากได้เผชิญกับความผันผวนของตลาดหุ้น ในช่วงเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 และช่วยให้นักลงทุนที่ต้องการซื้อห้องชุด ได้มีทางเลือกในการจ่ายเงินด้วยหุ้นแทน
“แคมเปญหุ้นแลกคอนโดนี้ นักลงทุนสามารถนำหุ้นของท่านที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มาแลกซื้อคอนโดมิเนียมของเราที่ร่วมในแคมเปญนี้ได้เลย ซึ่งนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับนักลงทุนที่ต้องการจะกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนจากความผันผวนของตลาดหุ้นเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มในเชิงบวกทั้งด้านความต้องการและมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น” นายสงกรานต์กล่าว
สำหรับโครงการที่บริษัทได้นำมาร่วมในแคมเปญหุ้นแลกคอนโด ประกอบด้วย 4 โครงการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป คือ 1.โครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศบ้านทิวทะเล บลู แซฟไฟร์ (Blue Sapphire)โลว์ไรส์ และไฮไรส์ คอนโดมิเนียม 4 ชั้น 2 อาคาร และ 15 ชั้น 1 อาคาร พร้อมทั้ง Clubhouse อยู่หน้าหาด มียอดขายแล้ว 85%
2. โครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศบลู (blu) ไฮไรส์ คอนโดมิเนียมสูง 21 ชั้น ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้อยู่ภายใต้อาณาจักทิวทะเลเอสเตทชะอำ – หัวหิน โครงการมิกส์ยูส(Mixed-use) ที่มีทั้งคอนโดมิเนียมตากอากาศ โรงแรม บ้านเดี่ยว (Residence Villa) ร้านอาหาร และคอมมูนิตี้ มียอดขายแล้ว 70%
3. โครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัย ดิ อิสสระ เชียงใหม่ ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โลวไรส์คอนโดมิเนียม 7 ชั้น 2 อาคาร มียอดขายแล้ว 50%
และ4.โครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัย อิซซี่ คอนโด สุขสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ไฮไรส์คอนโดมิเนียม 24 ชั้น ซึ่งทุกโครงการล้วนเป็นโครงการที่สร้างเสร็จเรียบร้อยพร้อมโอนและสามารถเข้าอยู่ได้ทันที แคมเปญหุ้นแลกคอนโดนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม –30 มิถุนายน 2563 วางเป้าการขายไว้ประมาณ 10-20 ยูนิต.