ธอส. ผุดมาตรการ 7 ช่วย SMEs แฟลต/อพาร์ทเม้นท์
ธอส.เปิดมาตรการที่ 7 สั่งพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน ช่วยผู้ประกอบการแฟลต อพาร์ทเม้นท์และโครงการที่อยู่อาศัย เงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาท ลงทะเบียน www.ghbank.co.th27 เม.ย.– 31 พ.ค.นี้ พร้อมลดภาระให้ลูกค้าในมาตรการที่ 5 เพิ่มเติม เผยยอดลงทะเบียน 6 มาตรการ ลดรายจ่ายสู้ COVID-19 พุ่งถึง 3.8 แสนบัญชี วงเงินกู้ 3.81 แสนล้านบาท
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการธนาคารฯ มีนโยบายให้ ธอส. แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าของธนาคารฯที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ด้วยการจัดทำ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” ผ่าน 6 มาตรการ ครอบคลุมลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางของธนาคารฯ ทั้งสถานะบัญชีปกติ สถานะ NPL หรืออยู่ระหว่างทำข้อตกลงประนอมหนี้ หรือสถานะบัญชีดอกเบี้ยผิดนัด หรือสถานะกฎหมาย ในทุกสาขาอาชีพ รวมถึงกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวเนื่องในด้านสาธารณสุข
โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 เม.ย.2563 พบว่า มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าทั้ง 6 มาตรการ 380,682 บัญชี วงเงินกู้ 381,911 ล้านบาท และเพื่อเป็นการขยายความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายแก่ลูกค้าของธนาคารฯ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด คณะกรรมการธนาคารฯ มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ให้จัดทำ มาตรการที่ 7 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ระยะเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้า SMEs ผู้ประกอบการแฟลต/อพาร์ทเม้นท์ และผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาท (วงเงินสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มธุรกิจของลูกค้าที่มีกับธนาคารไม่เกิน 100 ล้านบาท) มีสถานะบัญชีปกติ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 22 เม.ย. ภายหลังจากการพักชำระหนี้ให้กลับไปใช้อัตราดอกเบี้ย ตามเงื่อนไขของสัญญาเดิมโดยไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้หรือเสียประวัติข้อมูลเครดิต เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs มีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจและรักษาการจ้างงาน ส่วนดอกเบี้ยที่พักชำระไว้
ธนาคารฯได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการชำระให้แก่ลูกค้า แบ่งเป็น กรณีสินเชื่อแฟลต ให้พักชำระดอกเบี้ยได้อีก 12 เดือน จากนั้นให้ทยอยชำระดอกเบี้ยที่พักชำระไว้ภายใน 24 เดือน หรือ 36 เดือน ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ส่วน กรณีสินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) ให้ชำระในช่วงท้ายของสัญญากู้เงิน ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่านทาง www.ghbank.co.th ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. – 31 พ.ค.2563
สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้า มาตรการที่ 5 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งธนาคารฯจะยกดอกเบี้ยที่พักชำระให้ลูกค้าเมื่อสิ้นสุดระยะเวลากู้ตามสัญญา ซึ่งเป็น มาตรการที่มีลูกค้าลงทะเบียนมากที่สุดถึง 197,907 บัญชี วงเงินกู้ 180,595 ล้านบาท ล่าสุด ธนาคารฯยังให้สิทธิ์ในการเลื่อนระยะเวลาชำระค่าเบี้ยต่ออายุกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย ประจำปี 2563 ซึ่งจะครบกำหนดการคุ้มครองตามกรมธรรม์เดิมในวันที่ 30 เม.ย. โดยเลื่อนการชำระจากเดิมระหว่างวันที่ 1-31 พ.ค. ไปเป็นระหว่างวันที่ 1 ส.ค. – 15 พ.ย.2563 และลูกค้าจะยังคงได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องในช่วงที่ธนาคารฯให้สิทธิ์เลื่อนระยะเวลาชำระค่าเบี้ยต่ออายุกรมธรรม์
ขณะเดียวกัน ธนาคารฯยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เคยแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 5 พร้อมกับกดยอมรับข้อตกลงของมาตรการไปแล้ว หากต้องการยกเลิกหรือเปลี่ยนกลับไปผ่อนชำระตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้เดิม เนื่องจากรายได้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหา COVID-19 ให้สามารถกดยกเลิกมาตรการที่ 5 ได้ด้วยตัวเองผ่าน Application : GHB ALL โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขาภายในวันที่ 28 เม.ย.2563 เท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อกดยกเลิกมาตรการที่ 5 แล้วจะไม่สามารถเข้ามาตรการอื่นๆ ของโครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ ได้ในภายหลัง ส่วนลูกค้าที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 5 แล้ว ต้องกดยอมรับข้อตกลงของมาตรการผ่าน Application : GHB ALL จึงถือเป็นการลงทะเบียนเข้ามาตรการโดยสมบูรณ์ และหลังจากปฏิบัติตามข้อตกลงของมาตรการแล้ว ธนาคารฯจะยกดอกเบี้ยที่พักชำระไว้ทั้ง 4 เดือน ในงวดสุดท้ายของสัญญากู้ต่อไป สอบถามรายละเอียดหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ www.ghbank.co.th.