อสังหาฯวอนรัฐเลิก ‘แอลทีวี’ สู้พิษโควิด-19
อสังหาฯประสานเสียง รอชงรัฐบาลยกเลิกมาตรการ LTV เลื่อนจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพิษโควิด-19 เตือนผู้ประกอบการที่มีภาระหนี้หุ้นกู้-ตั๋วบีอีเยอะ รีบเคลียร์
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยถึงผลกระทบจากการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และยังประเมินไม่ได้ว่า วิกฤตการณ์โควิด-19 จะจบเมื่อไหร่ แต่หากเกิดความชัดเจนในเรื่องของวัคซีนป้องกันแล้ว ก็จะเป็นการฟื้นความเชื่อมั่นได้ ซึ่งผลจากโควิด-19 ธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบก่อน ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เหมือนมะเร็ง ช่วง 3 เดือนข้างหน้า เรายังทนได้ แต่ถ้าปล่อยไปถึงไตรมาส 4 คิดว่าลำบาก คล้ายๆ วิกฤตปี 2540 ที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ถูกกระทบและล้มกระจาย
สำหรับแนวทางที่จะบรรเทาให้ภาคอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวได้นั้น สิ่งสำคัญ ภาครัฐ ควรยกเลิกมาตการกำกับควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย “Loan to Value หรือ LTV” ซึ่งจะช่วยกระตุ้นทั้งกำลังซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่จะเข้ามาซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งจะช่วยดูดซัปพลายภายในระบบได้ และเรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์แน่นอน และเมื่อเข้าสู่เดือนมิถุนายน 2563 จะมีการเก็บภาษีตามที่กฎหมายระบุไว้
ประการที่สาม การสร้างกำลังซื้อและความเชื่อมั่น ซึ่งเรามีความกังวล หากธนาคารสวมหมวกกันน็อก มองทุกธุรกิจเสี่ยงหมดก็น่าเป็นห่วง ดังนั้น ที่ผ่านมาในระบบเคยมีกลไกในการฟื้นความเชื่อมั่น ผ่านบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (SMC) การเข้าไปรับซื้อหนี้สินเชื่อจากธนาคาร เช่น อาชีพกัปตันนักบิน เป็นกลุ่มที่มีรายได้ดี แต่วิกฤตครั้งนี้ ทำให้ธนาคารอาจจะไม่ปล่อยสินเชื่อให้ ซึ่งหากมี SMC เกิดขึ้นอีกครั้งก็จะทำให้ลดความเสี่ยงในการตั้งสำรองในเกณฑ์ที่สูง แต่ทั้งนี้ ประเด็นเรื่อง SMC เป็นภาพใหญ่ของนโยบายที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ยกเลิก SMC ไปแล้ว
“ตอนนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใด มีหนี้เยอะ ก็จะลำบาก บริษัทใดออกหุ้นกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน และจะครบดิว จะต้องหาวิธีบริหารสภาพคล่องให้ดี เพราะประเมินว่าปลายปีจะมีตัวเลขครบไถ่ถอนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ทางออกของผู้ที่ออกหุ้นกู้ หรือตั๋วบีอี ก็ต้องไปยืดหนี้ออกไป แม้ว่าแบงก์ชาติจะมีการเข้ามาช่วยเหลือตราสารหนี้ในระบบ แต่จะเน้นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อที่ดี”
นายปรีชา กุลไพศาลธรรม นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี กล่าวสนับสนุนให้รัฐยกเลิก LTV เนื่องจากเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ โดยจะเห็นได้ชัดเจนว่า ช่วงที่มีการประกาศใช้มาตรการเดือนเมษายน 2562 ตลาดหดตัวลงไป 20% และต้องการให้รัฐและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นำเสนอดอกเบี้ยพิเศษเช่น 0% นาน 3 ปี เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจที่จะซื้อและโอนที่อยู่อาศัยได้ การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษในเรื่องตกแต่ง และน่าจะขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง เหลือรายการ 0.01% ครอบคลุมทุกระดับราคา.