ใช้แล้วขายประกัน Face to Face – คปภ.จ่อปรับใช้ขายจริง
“เลขาฯคปภ.” เซ็นอนุมัติขายประกันเฉพาะกิจ “Digital Face to Face” สู้ภัยโควิด-19 เพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกด้านการประกันภัย สั่งตีกรอบ “6 ข้อ” สกัดปัญหาตามมา ย้ำ! ไม่รวมขาย “ยูนิต ลิงค์ – ยูนิเวอร์แซลไลฟ์” แนะบริษัทประกันจัดเตรียมระบบ รองรับการบันทึกภาพและเสียง เผยหากระบบดีจริง อาจยกระดับเป็นการขายถาวรในอนาคต

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า ตนได้ลงนามในประกาศ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต/วินาศภัย และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต/วินาศภัย และธนาคาร ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2563 (ประกาศการขายประกันเฉพาะกิจ Digital Face to Face) เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมาโดยมีสาระสำคัญดังนี้
1.ให้การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย แบบ Face to Face หรือธนาคาร สามารถใช้วิธีการสื่อสารผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเสียง และ/หรือภาพ กับลูกค้าได้ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit – Linked) และกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ ซึ่งเป็นกรมธรรม์ที่มีความซับซ้อน และอาจมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสำนักงานกลต. ด้วย
2.กำหนดให้บริษัทประกันภัยต้องมีความพร้อมของระบบหรือกระบวนงานที่รองรับการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย โดยให้ผู้เสนอขายใช้วิธีการสื่อสารผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยข้อความ เสียง และ/หรือภาพ เช่น การจัดเก็บการสนทนาระหว่างผู้เสนอขายและลูกค้า การตรวจสอบคุณภาพการขาย การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม และการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามกฎหมายเป็นต้น

3.ในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย จะต้องมีการบันทึกเสียงหรือภาพการสนทนาไว้ โดยผู้เสนอขายต้องอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยที่เสนอขาย โดยใช้เอกสารประกอบการเสนอขายที่ได้รับความเห็นชอบจากบริษัทเท่านั้น รวมถึงต้องสอบถามข้อมูลเพื่อทราบความจำเป็น ความต้องการ วัตถุประสงค์ในการซื้อกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อแนะนำแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย (Suitability Requirement) ของลูกค้า
4.กรณีลูกค้าสนใจทำประกันภัย ให้ผู้เสนอขายสอบถามข้อมูลต่างๆ เพื่อกรอกข้อมูลของลูกค้าในคำขอเอาประกันภัย และเอกสารประกอบการเสนอขาย และส่งให้ลูกค้าตรวจสอบความถูกต้องผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แอพพลิเคชั่นที่ตกลงกับลูกค้า ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การส่งข้อความสั้น (SMS) ทั้งนี้ หากลูกค้าตกลงทำประกันภัย ให้ลูกค้าส่งข้อความยืนยัน พร้อมส่งภาพบัตรประชาชน คำขอเอาประกันภัย และหลักฐานการชำระเบี้ยประกันภัยเข้าบัญชีบริษัท โดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เช่นเดียวกัน และเมื่อบริษัทได้รับชำระเบี้ยประกันภัยแล้ว ให้ออกเอกสารการรับเงินโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ลูกค้าทันที
5.เมื่อบริษัทตกลงรับประกันภัย บริษัทจะส่งกรมธรรม์ประกันภัยโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ก่อนก็ได้ หากผู้เอาประกันภัยยินยอมและให้เริ่มนับระยะเวลาขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย (Free Look Period) ตั้งแต่วันที่กรมธรรม์ประกันภัยไปถึงผู้เอาประกันภัย ทั้งนี้บริษัทต้องส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยและเอกสารแสดงการรับเงินฉบับจริงให้ผู้เอาประกันภัยด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้เอาประกันภัยอาจแจ้งความประสงค์ให้บริษัทออกกรมธรรม์ประกันภัยโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบริษัทต้องปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในประกาศคปภ. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการออกกรมธรรม์ประกันภัย การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย และการชดใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต/การชดใช้เงิน หรือค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย โดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2560

เมื่อบริษัทออกหรือส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยแล้ว ภายใน 7 วัน บริษัทจะต้องโทรศัพท์ไปขอคำยืนยันการทำประกันภัย (confirmation call) และหากผู้เอาประกันภัยประสงค์จะยกเลิกการทำประกันภัย ให้บริษัทคืนเบี้ยเต็มจำนวนให้ผู้เอาประกันภัย ภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับแจ้งการยกเลิก
ก่อนหน้านี้ นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน คปภ. ได้ลงนามในประกาศ คปภ. เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต/วินาศภัย และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต/วินาศภัยนายหน้าประกันชีวิต/วินาศภัย และธนาคาร ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ.2563 ให้อำนาจ สำนักงานฯในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยฯ ให้แตกต่างจากประกาศคปภ. เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยฯ พ.ศ. 2561 (ประกาศการขายประกันฉบับปี 2561) ในกรณีจำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด–19
จากนั้น สำนักงาน คปภ. ได้ประชุมร่วมกับสมาคมตัวแทนและที่ปรึกษาการเงิน สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจประกันภัยในการปรับกติกาที่ใช้ในปัจจุบัน ให้มีความยืดหยุ่นและนำมาใช้เป็นการชั่วคราว กรณีการเกิดข้อขัดข้องในทางปฏิบัติของช่องทางการเสนอขายที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในรูปแบบของFace to Face ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ได้ข้อสรุปร่วมกันในการนำวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยแบบ Face to Face ตลอดจนหลักการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การออกประกาศเฉพาะกิจนี้ อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง
“ประกาศการขายประกันเฉพาะกิจ Digital Face to Face จะใช้คู่กับประกาศการขายประกันฉบับปี 2561 ซึ่งเป็นประกาศหลักที่ใช้ในปัจจุบัน โดยจะช่วยเสริมให้เกิดความคล่องตัวเพื่อให้การปฏิบัติตามประกาศการขายประกันฉบับปี 2561 สามารถดำเนินการได้ โดยเปิดช่องให้นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบ Face to Face เพื่อแก้ปัญหาในทางปฏิบัติในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยจะใช้เป็นการเฉพาะกิจในช่วงสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดนี้ซึ่งการใช้ประกาศเฉพาะกิจฉบับนี้ จะเปรียบเสมือน Regulatory Sandbox ของกติกาในการกำกับดูแลของ คปภ. โดยหากประเมินแล้วพบว่ากติกาเฉพาะกิจนี้ใช้ได้ผลดี ก็อาจพิจารณานำส่วนที่เหมาะสมมาปรับใช้ในประกาศฉบับถาวรก็ได้” เลขาธิการ คปภ. ระบุ.