ธนารักษ์งัด 7 ม.สู้โควิดฯ พ่วงบรรเทาวิกฤติผู้เช่าฯ
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID–19) ให้แก่ ผู้เช่าที่ราชพัสดุ บุคลากรของกรมธนารักษ์ ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค ตลอดจนประชาชนทั่วไป พร้อมประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ ดังนี้
1. ผู้เช่าที่ถือสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย และสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อการเกษตร จะได้รับการยกเว้นค่าเช่า 1 ปี (ปีงบประมาณ 2564) โดยจะได้รับยกเว้นการเรียกเก็บเบี้ยปรับ ในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินที่ค้างชำระตามสัญญาที่กำหนดไว้ ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเพื่ออยู่อาศัย และผู้เช่าเพื่อการเกษตร ซึ่งมีสัญญาเช่าจำนวน 150,409 ราย และเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้เช่าและสมาชิกในครัวเรือนได้มากกว่า 450,000 คน
2. ผู้เช่าที่ถือสัญญาเช่าอาคาราชพัสดุ สัญญาเช่าเพื่อประโยชน์อย่างอื่น สัญญาก่อสร้างอาคาร ยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง และสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ (การเปิดประมูลพัฒนาที่ราชพัสดุเนื้อที่เกิน 2 ไร่ / มูลค่าเกิน 10 ล้านบาท) สามารถเลื่อนชำระค่าเช่าและค่าตอบแทนของเดือนมี.ค. – ส.ค.2563 (รวมระยะเวลา 6 เดือน) และผ่อนชำระค่าเช่าและค่าตอบแทนเป็นระยะเวลา 12 เดือน (1 ก.ย. 2563 – 31 ส.ค. 2564) โดยยกเว้นเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินที่ค้างตามสัญญาที่กำหนดไว้
3. สั่งการให้ธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่ทั่วประเทศ ประสานขอความร่วมมือกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชนในทุกจังหวัดที่เช่าที่ราชพัสดุเพื่อประกอบกิจการตลาดในท้องที่นั้นๆ ให้คัดกรองอุณหภูมิ วางเจลล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน หมั่นดูแลทำความสะอาดพื้นผิวและห้องสุขา จำกัดจำนวนคนเข้าใช้บริกาตลาด เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชน และให้พิจารณากำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้ประกอบการการค้าในตลาดตามความเหมาะสม
4. บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับของกรมธนารักษ์ โดยมีหน้าที่บริหารอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ได้ดำเนินการป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID–19 โดยจัดจุดตรวจคัดกรอง อบโอโซนบริเวณภายในอาคาร ฉีดพ่นน้ำยาเคมีเพื่อฆ่าเชื้อ และร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ผู้มาติดต่อราชการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
5. ให้ใช้ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 8,000 ตารางเมตร เป็นโรงพยาบาลสนามในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19
6. สร้างความมั่นใจในการใช้เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนของประชาชน โดยกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ซึ่งเป็นเหรียญใหม่ในอัตราร้อยละ 70 เพื่อนำเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และมีเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนเดิมเพียงร้อยละ 30 นอกจากนี้ เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนก่อนจ่ายแลกให้ประชาชน จะดำเนินการฆ่าเชื้อด้วยระบบ UVC
7. ความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่มีต่อบุคลากรของกรมธนารักษ์ จึงกำหนดให้มีจุดคัดกรองอุณหภูมิ วางเจลล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน ดูแลทำความสะอาดพื้นผิวและห้องสุขา อีกทั้ง ยังได้มอบเครื่องวัดอุณหภูมิ จัดทำหน้ากากอนามัย สเปรย์แอลกอฮอล์ 75% (สำหรับทำความสะอาด) ให้แก่บุคลากรกรมธนารักษ์ทั้งในส่วนกลางและสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์และประชาชน รวมถึงให้ปรับรูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์โดยให้คำนึงถึงการปฏิบัติตนตาม Social Distancing ด้วย.