คลังยัน! ไม่ได้แจกเงินแสนล้านสู้พิษโควิด-19
คลังยืนยันไม่หว่านเงินแสนล้านบาทสู้พิษไวรัสโควิด-19 ย้ำรัฐบาลไม่ได้สุรุ่ยสุร่าย ระบุ เป็นชุดมาตรการระยะสั้น จำเป็นต้องออกใช้หวังสกัดวิกฤติเศรษฐกิจ
โอละพ่อ! ภายหลังสื่อมวลชนประจำกระทรวงการคลัง นำเสนอข่าวในทิศทางเดียวกัน ทำนอง…“กระทรวงการคลังแจกเงินแสนล้านสู้พิษโควิด-19” ล่าสุด เป็น นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช.รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) ที่ออกมาแจกข่าวผ่านเว็บไซต์ห้องข่าวกระทรวงการคลัง และสื่อออนไลน์อื่นๆ โดยย้ำว่า มาตรการดังกล่าวเป็นไปเพื่อดูแลเศรษฐกิจและหวังลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.)
ทั้งนี้ มาตรการช้างต้น ถือเป็น ชุดมาตรการระยะสั้นที่มีความจำเป็นและเห็นผลรวดเร็ว เพื่อประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้เกิดวิกฤติ ครอบคลุมประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และผู้ประกอบอาชีพอิสระ และ 2.ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
โดยกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และอาชีพอิสระ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเงินเข้ากระเป๋า เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยจะใช้วิธีโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) ป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหล ซึ่งกระทรวงการคลังมีฐานข้อมูลรายชื่ออยู่แล้ว
ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จะใช้กลไกของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ปล่อยเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์แบบต้นทุนต่ำ เพื่อให้นำไปปล่อยกู้แก่ผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงและทำได้จริง ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยจะช่วยยืดหยุ่นกฎเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อและการกันสำรองหนี้เป็นการชั่วคราว
“ไม่อยากให้มองแยกส่วน อยากให้มองเป็นชุดมาตรการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งระบบ เป็นการให้ความช่วยเหลือชั่วคราว ดูแลพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้มีเงินในกระเป๋าไว้จับจ่าย สำหรับผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รัฐบาลจะส่งเสริมให้มีการฝึกอาชีพเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ลูกจ้างในสถานประกอบการ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว” นายชาญกฤช ย้ำและว่า
รัฐบาลไม่ได้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายถึงแสนล้านบาท แต่จะใช้งบประมาณเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาถึงความเหมาะสมของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ รัฐบาลในหลายๆ ประเทศที่ประสบปัญหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด ก็มีชุดมาตรการระยะสั้นเพื่อพยุงเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น กระทรวงการคลังฮ่องกงออกแถลงข่าวว่าจะแจกเงินให้ประชาชน 7 ล้านคนๆ ละ 41,000 บาท เพื่อให้จับจ่ายซื้อสินค้าและบริการจากภาคธุรกิจ บรรเทาพิษเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็มีชุดมาตรการระยะยาวเพื่อดูแลเศรษฐกิจทั้งระบบ ด้วย อาทิ โครงการประชารัฐสร้างไทย มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้แต่ละชุมชนทั่วทั้งประเทศ โดยรัฐบาลได้นำร่องพัฒนาความรู้และทักษะเชิงนวัตกรรมในการประกอบอาชีพ ส่งเสริมให้เข้าถึงเทคโนโลยีการเพาะปลูก-เก็บเกี่ยวเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ยกระดับสู่เกษตรแปรรูป ส่งเสริมให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
รวมถึงการสร้างช่องทางการกระจายสินค้า ที่ประสบความสำเร็จไปแล้วในหลายชุมชนนำร่อง โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับชุดมาตรการระยะยาว ผ่านโครงการประชารัฐสร้างไทยมาก เพราะจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนตามชุมชนต่างๆ ทั่วทั้งประเทศ อีกทั้งจะเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างตรงจุดและอย่างยั่งยืน.